Title: Call
Author: Yaoyuay
Fandom: Haikyuu
Pairing: Asahi x Nishinoya
Rating: PG
Warning: Yaoi
เสียงหัวใจเต้นหนักในอกสลับกับเสียงเข็มวินาทีเดินผ่านตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา ตอนช่วงเวลาที่ทั้งเข็มสั้นและยาวมาอยู่ใกล้ตัวเลขสิบสองของวงกลม ทั้งห้องเงียบจนเหมือนตอนหายใจเข้าออกได้ยินเพียงเสียงรัวข้างในอกเป็นจังหวะเร็วกว่าเสียงเข็มวินาที เหงื่อชื้นซึมออกมาผ่านฝ่ามือกำประสานแน่นวางบนโต๊ะข้างปฏิทินของวันที่เก้าตุลาคม
ด้านนอกหน้าต่างเป็นสีดำของท้องฟ้าตอนกลางคืนในวันที่อากาศเริ่มเย็นลงเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง แต่กลับรู้สึกเหมือนเหงื่อแห่งความกังวลและตื่นเต้นเริ่มผุดออกมาให้รู้สึกร้อน สูดหายใจลึกเข้าปอดแล้วค่อยปล่อยออกมาช้าๆ ระหว่างทำสมาธิเมื่อเข็มนาฬิกาคอยส่งเสียงเตือนตลอดวินาทีตอนเขายังเหลือเวลานั่งอยู่กับเหงื่อชื้นตรงโคนผมอีกไม่ถึงสิบนาที
คลายมือเปียกเหงื่อออกเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่นั่งจ้องเกือบครึ่งชั่วโมงมาถือไว้ให้ชินมือ กว่าจะเริ่มเลื่อนนิ้วไปตามรายชื่อเจ้าของหมายเลขในเครื่องไปจนหยุดที่ตัวอักษรอ่านเป็นชื่อของคนที่มักจะเรียกชื่อเขาก่อนเป็นประจำเวลาเจอหน้า พูดด้วยเสียงดังก่อนลงแข่งให้หายประหม่า ลูกตบที่โดนบล็อกก็มักจะเป็นคนนี้ไถลตัวเข้ามารับได้ทันก่อนที่บอลจะตกพื้น
…นิชิโนะยะ ยู…
เข็มวินาทียังเคลื่อนที่เป็นวงกลมขยับผ่านเลขสิบสองไปพร้อมกับเวลาเตรียมใจเหลือสั้นลง เมื่อเข็มยาวเริ่มขยับเข้าไปใกล้เข็มสั้นที่ไปหยุดรออยู่ก่อน สูดหายใจยาวเข้าลึกอีกครั้งแล้วปล่อยช้าๆ เสียงเข็มนาฬิกายังขยับต่อไปไม่หยุดตาม นาทีสุดท้ายของวันใหม่นับถอยหลังไปตามทุกการขยับของวินาที จนเมื่อผ่านเลยเลขที่ทุกเข็มเวลามารวมกัน วันที่สิบตุลาคมเริ่มขึ้นพร้อมกับลมหายใจสูดเข้าของเขาเมื่อปลายนิ้วโป้งสัมผัสซ้ำลงที่หมายเลขโทรศัพท์ใกล้กับชื่อ หน้าจอเปลี่ยนเป็นต่อสายรอเวลาให้ปลายทางรับสัญญาณ
แรงสั่นของโทรศัพท์ทำให้รู้สึกตัวบนหมอนนุ่มที่พาเขาไปอยู่ในห้วงฝัน ลืมตาขึ้นเอื้อมแขนออกไปแล้วก็ต้องหรี่ตา เมื่อแสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์สว่างเกินไปในความมืดเมือสายตายังปรับไม่ชิน กำมือรอบโทรศัพท์ที่ยังสั่นอยู่นานกว่าจะออกแรงหยิบมายกขึ้นตรงหน้าทั้งที่ศีรษะยังหนุนอยู่บนหมอนขณะหรี่ตามองชื่อเจ้าของสายที่โทรเข้ามา
รีบกดรับสายทันทีหลังจากปล่อยให้คนโทรหารอการตอบรับนานเกินไป กระเด้งตัวขึ้นจากหมอนทิ้งความง่วงก่อนหน้าไม่กี่วินาทีแล้วรีบส่งเสียงเรียกชื่อคนที่โทรมาหาอย่างรวดเร็วจนเหมือนกับความเงียบของห้องจะทำให้เสียงของเขาเปล่งออกมาดังเกินไป
“อาซาฮิซัง!!!”
ยังไม่มีเสียงตอบกลับจากปลายสายระหว่างลมหายใจเหมือนจะเข้าออกเร็วกว่าปกติ
“นะ..นิชิโนะยะ..”
อาซาฮิซังเรียกเบาๆ อยู่ใกล้หูผ่านทางโทรศัพท์แล้วเสียงก็เงียบไปอีก
“อื้อ..!”
ส่งเสียงตอบรับในลำคอดังๆ ให้เสียงพอจะส่งผ่านโทรศัพท์ไปหาอีกฝั่งของสัญญาณ
“นอนแล้วหรือเปล่า”
“เปล่า..”
โกหกตอบปฏิเสธแต่ก็ทิ้งตัวลงปล่อยให้หลังสัมผัสที่นอนเหมือนไม่กี่นาทีก่อนหน้า ความนุ่มสบายของหมอนกับผ้าห่มเริ่มทำให้รู้สึกคิดถึงตอนหลับตา
“เอ่อ…”
เสียงอ้ำอึ้งนำมาก่อน แล้วตามด้วยความเงียบจนเหมือนมีเสียงหายใจของอาซาฮิซังดังผ่านโทรศัพท์มาด้วย
“ส..สุขสันต์วันเกิด”
เหมือนเพดานห้องที่เขานอนมองอยู่สว่างทั้งที่ปิดไฟ แล้วมือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ก็เอื้อมสะเปะสะปะไปข้างตัวตอนยังไม่กล้าละสายตาจากฝ้าเพดาน หมอนอีกใบถูกคว้าหาจนเจอแล้วรีบดึงมากอดแนบอกไว้แน่นกันไม่ให้หัวใจหลุดออกมา แก้มร้อนขึ้นทั้งที่อุณหภูมิในห้องเย็นจนต้องห่มผ้า แล้วเขาก็ยังไม่กล้าละสายตาจากบนฝ้าระหว่างที่ยังมีเสียงลมหายใจแรงๆ ของอาซาฮิซังผ่านโทรศัพท์มา
แขนเริ่มรัดหมอนแน่นจนต้องพลิกตัวนอนตะแคงแล้วหลับตา คนโทรมาอวยพรวันเกิดยังอยู่ในสายแต่ก็ยังไม่มีใครเริ่มต่อบทสนทนา ทั้งที่ควรจะรีบขอบคุณแต่กลายเป็นว่าความดีใจจนทำให้หัวใจเต้นกำลังทำให้เสียงของเขาถูกเก็บอยู่ในลำคอ
“..แข็งแรงทุกวันนะ”
เสียงทุ้มพูดผ่านสัญญาณมาอีกตอนเสียงหายใจเงียบไป แล้วหน้าของเขาก็เหมือนกำลังจมลงในหมอนมากกว่าเดิม
“อื้อ!! อาซาฮิซังขอบคุณ”
งอตัวยกขาขึ้นมาจนชิดหมอนใบใหญ่ที่กอดอยู่ เหมือนหัวใจกำลังจะไปอยู่ในท้องแทนหลังจากเมื่อกี้เกือบจะออกจากอก
“จะนอนเลยหรือเปล่า”
“…อีกแป๊ปนึง”
แล้วก็กลายเป็นความเงียบ จนตอนนี้เหมือนเป็นเขาที่ได้ยินเสียงหายใจของตัวเองตอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมปิดเกือบทั้งหน้า
“อาซาฮิซังจะนอนเลยมั้ย”
“ยังไม่นอน..”
“มีซ้อมตอนเช้านะ”
ผลิกตัวในผ้าห่ม เปลี่ยนเป็นนอนตะแคงอีกข้าง โทรศัพท์ถูกศีรษะกดไว้กับหมอนหนุนเลยใช้แขนอีกข้างมากอดหมอนใบใหญ่ไว้ได้ทั้งสองมือ
“นิชิโนะยะก็เหมือนกัน”
“เดี๋ยวไดจิซังดุนะ”
“งั้นนอนมั้ย”
“อีกหนึ่งนาที”
แล้วบทสนทนาก็หายไปอีกหลังจากเขายื้อไม่วางสาย ถึงจะไม่ได้ยินเสียงหายใจของอาซาฮิซังแต่ก็รู้ว่าคนโทรมายังแนบโทรศัพท์อยู่ข้างหูเหมือนกับเขา
“อาซาฮิซังหลับแล้วเหรอ”
“เปล่า..”
“จะครบหนึ่งนาทีแล้ว”
“จะต่อเวลามั้ย”
“ไม่เอา ไดจิซังน่ากลัว”
“งั้นนอนนะ”
“อื้อ!”
ยกมือขึ้นจับโทรศัพท์ไว้ระหว่างพลิกตัวกลับมานอนหงาย ภาพของเพดานห้องกลับมาเหมือนตอนหัวใจเต้นรัวเมื่อได้ยินว่าคนโทรมาจำวันเกิดของเขาได้ วูบขึ้นมาจากในท้องคือดีใจจนแทบเก็บความรู้สึกไว้ไม่อยู่
“ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ราตรีสวัสดิ์ อาซาฮิซัง”
สัญญาณโทรศัพท์หายไปพร้อมกับที่อีกฝ่ายกดวางสายเกือบพร้อมกัน ยังยกโทรศัพท์ขึ้นชูตรงหน้าจ้องไฟจากหน้าจอจนกระทั่งดับไปพร้อมกับทั้งห้องกลับมามืดอีกครั้ง เสียงของอาซาฮิซังผ่านโทรศัพท์ไม่เหมือนเสียงที่เคยได้ยินตอนเห็นหน้า ยิ่งได้ยินอยู่ตรงข้างหูยิ่งเหมือนคนในสายมาพูดอยู่ใกล้ๆ แล้วคำว่าสุขสันต์วันเกิดของอาซาฮิซังก็กำลังจะดังอยู่ในฝันของเขาไปอีกตลอดทั้งคืน
สุขสันต์วันเกิดโนะยะซังค่ะ > <,,) ♥♥♥♥♥♥
อยากให้อาซาฮิซังได้อวยพร เลยลองให้เอซโทรมาหาโนะยะซังดูค่ะ
อยากให้เป็นเหมือนทั้งสองคนไม่ค่อยจะได้คุยโทรศัพท์กันเท่าไหร่ แล้วต่างฝ่ายก็ต่างมือใหม่มากๆ เมื่อได้ยินเสียงกันผ่านโทรศัพท์แล้วไม่รู้ว่าต้องคุยอะไรกัน
สุขสันต์วันเกิดโนะยะซังอีกครั้งนะคะ
ขอให้มีความสุขกับอาซาฮิซังมากๆ น้า~ อ้ะ!? นี่อวยพรวันเกิด? (ฮาาาา)
ช้าไปหลายวันแค่ชั่งมันค่ะ….HBD
#อ่านแล้วจิกหมอนเลยค่ะ >_<¦¦¦
LikeLike
เอ้ยยย คาว้ามากค่ะช่วยด้วย คว้าหมอนมาจิกไม่ทัน กรี๊ดดดด
คืออยากบุกเข้าไปอุ้มกลับบ้านเลยค่ะ ยูจังของเอซ กรอบขอดื้อๆเลยเถอะนะคะ
สุขสันต์วันเกิดนะคะยูจัง♡
LikeLike
โฮรวววว เขินตามสองคนนี้เลยบ้าจริงง แงง
น่ารักมากๆเลยค่ะ ทั้งโนยะ ทั้งอาซาฮีเลย / w \,,
ไปย้อนอ่านเรื่องอื่น ก็ประทับใจมากๆ เป็นฟิคสั้นที่เราชอบมากเลย แง เริ่มดีจบดี อ่านไปก็ใจเต้นตามโนยะซังเลยค่ะ กี๊ดดด 5555
สุขสันต์วันเกิดโนยะซังด้วยค่าาาา
LikeLike