[Fic Kuroko no Basuke] Hurt (Kiyoshi x Hyuga)


Title: Hurt
Author: Yaoyuay
Fandom: Kuroko no basuke
Pairing: Kiyoshi x Hyuga
Rating: PG-13
Warning: Yaoi
 
 
 
 
*ผลั่ก*
 
 
“โอ้ยย!”
 
 
“เฮ้! เป็นอะไรรึเปล่า?”
 
รีบร้องทักด้วยความเป็นห่วงเมื่อได้ยินเสียงกระแทกของบานประตู และเสียงร้องบอกความเจ็บปวดของผู้มาเยือนที่มาได้ตรงกับจังหวะกับประตูที่เขาเพิ่งผลักให้เปิดออกพอดี แรงกระแทกนั้นบอกได้ว่าคนที่ยืนอยู่ที่อีกฝั่งของประตูนี้คงเจ็บไม่น้อย แต่เมื่อผลุนผลันออกไปดูที่ด้านนอกก็เห็นเป็นคนที่ไม่คิดว่าจะมีใครอีกสามารถทำสีหน้าเจ็บปวดอย่างอารมณ์ดีได้แบบนี้
 
“คิโยชิ..”
 
 
“เจ็บเหมือนกันนะเนี่ยฮิวงะ”
 
ฝ่ามือใหญ่นั้นคลำอยู่บริเวณจมูก เป็นไปได้ว่าเสียงกระแทกอย่างแรงเมื่อครู่นี้ เขาคงเปิดประตูออกไปพอดีกับที่คิโยชิเดินเข้ามา แล้วประตูก็กระแทกเข้าที่หน้าของเซ็นเตอร์ทีมบาสเซย์รินเข้าอย่างจัง
“โทษที ไปห้องพยาบาลมั้ย จมูกหักหรือเปล่า”
 
พอเห็นว่าคนยิ้มเก่งเจ็บจริงเลยลืมที่จะทำเป็นวางมาดเข้มใส่แบบทุกที หัวใจเหล็กแต่จมูกคงไม่ใช่เหล็กแข็งไปกว่าประตูห้องชมรมได้หรอก
 
 
“ชั้นไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่เจ็บชาๆ นิดหนอย”
 
 
คนเจ็บเอามือออกจากจมูกแล้ว ปากบอกว่าไม่ป็นไร แต่ก็ยังเห็นว่าปลายจมูกแดงเพราะแรงกระแทก จะเซ้าซี้ให้ไปห้องพยาบาลก็ดูจะไม่ใช่นิสัยปกติของเขาเท่าไหร่ ได้แต่ถอยหลังให้คนตัวใหญ่กว่าก้าวเข้ามา และเป็นว่าเขาที่กำลังจะกลับก็ต้องหยุดรอดูอาการชดเชยกับการทำให้อีกคนจมูกเกือบหัก
 
 
“ฮิวงะจะกลับแล้วเหรอ”
 
คิโยชิหันมาถามจากทางล็อกเกอร์ เสื้อบาสที่เปียกเหงื่อจนชุ่มถูกถอดออกเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสบายๆ
 
 
“เอ่อ..ยังหรอก”
 
โกหกไปแบบไม่เนียนทั้งที่คนถามก็เหมือนจะรู้ทัน แต่โชคดีที่คิโยชิไม่ได้ถามต่อ เพียงแต่ยิ้ม ยิ้มแบบทุกทีทั้งสีหน้า และแววตา
 
 
รอยยิ้มนี้แหละที่เขาไม่ชอบเหลือเกิน รอยยิ้มของคนตัวใหญ่กว่าที่แค่เจอครั้งแรกก็ผงะให้กับความสูงที่ต่างกันถึงสิบห้าเซนฯ รอยยิ้มนี้ที่ตามตื๊อให้เขากลับมาเล่นบาส ตามตื๊อให้เขาเข้าชมรม แต่ก็รอยยิ้มนี้อีกที่ทำให้หลายครั้งหัวใจก็เขาเต้นผิดจังหวะ
 
 
“ชั้นยังเจ็บอยู่เลย ฮิวงะ”
 
 
“รู้แล้วน่า!!”
 
พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จเจ้าของจมูกแดงๆ ก็เดินมานั่งบนม้านั่งข้างเขา ไอ้บ้าเอ้ย คนเจ็บที่ไหนมันยังยิ้มอยู่ได้แบบนี้หล่ะ
 
 
“ฮิวงะรู้อะไรมั้ย ชั้นจะหายเจ็บเร็วขึ้นถ้านายมาเขยิบมานั่งใกล้ๆ นะ”
 
 
หาาาา!?
 
ได้แต่หันไปมองแล้วอ้าปากค้าง ตรรกะอะไรของมัน
 
 
“ลองดูมั้ยหล่ะ”
 
เอาอีกแล้วหันมายิ้มแบบเดิมอีกแล้ว ทั้งที่เป็นรอยยิ้มแบบปกติของคิโยชิที่ยิ้มให้กับคนอื่นเหมือนกันแท้ๆ แต่พอรอยยิ้มนั้นกำลังยิ้มให้เขาเป็นต้องยอมให้ทุกที
 
 
ฮิวงะทำหน้าปั้นยากให้คิ้วมาขมวดติดกันกลบเกลื่อนความรู้สึกประหม่าที่กลัวจะโดนคนข้างๆ จับได้ว่าตอนนี้เขารู้สึกเขินแปลกๆ ทั้งที่รู้จักกันมานาน และเคยฝึกซ้อมมาด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง กับแค่เขยิบเข้าไปนั่งข้างๆ ในระยะที่ใกล้กว่าทุกที ตอนที่หัวไหล่สัมผัสกันทำไมหัวใจถึงเต้นแรงยิ่งกว่าแข่งจนจบสี่ควอร์เตอร์เสียอีก
 
 
“ฮิวงะ”
 
ถ้าให้เดาตอนนี้ไอ้คนที่เรียกชื่อเขามันต้องกำลังยิ้มแบบอ่อนโยนที่สุดในชีวิตอยู่แน่ๆ ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนทำให้มันเจ็บตัวก็คงไม่ต้องนั่งตามใจตรรกะประหลาดของมัน ป่านนี้คงได้กลับถึงบ้านแล้ว
 
“ตอนนี้ชั้นหายเจ็บแล้วหน่อยนึงนะ”
 
 
เชื่อก็บ้าแล้ว!
 
ถ้าเขามานั่งใกล้ๆ แล้วจะหายเจ็บจริงโลกนี้ก็คงไม่ต้องมีหมอแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอะไรของมัน เสี้ยวหน้าที่แอบหันไปเห็นหน่อยหนึ่งนั้นดูจะมีความสุขเหลือเกิน หรือจริงๆ แล้วหมอนี่จะชอบความเจ็บปวดถึงได้ยังยิ้มออกแม้ว่าจมูกจะแดงห้อเลือดขนาดนั้น
 
 
“แต่ถ้านายจับมือฉันจะหายเจ็บเร็วกว่านี้อีกนะ”
 
 
หาาาา!?
 
เอาอีกแล้วตรรกะแปลกประหลาดของมือขวางหน่วงเวลา
 
 
“จริงๆ นะ”
 
ยังไม่วายยื่นมือออกมาวางหงายไว้ที่หน้าขาอีก คิดว่าเขาจะยอมยื่นมือออกไปจับหรือยังไงแค่ยอมนั่งข้างๆ แบบนี้ก็ใจดีมากพอแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคิโยชิจะรู้ว่าเขาไม่ยอมเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปจับแน่ ฝ่ามือใหญ่ๆ นั้นถึงเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายคว้ามือเขาไปกุมไว้แทน
 
 
“อะไรของนายเนี่ย!!”
 
ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องโวยวายออกไป เมื่อความอุ่นร้อนจากฝ่ามือใหญ่ของเพื่อนร่วมทีมส่งผ่านมาตามนิ้วมือทั้งห้า ความรู้สึกประหลาดเหมือนไฟช้อตกันอยู่ตรงมือที่ถูกกุมไว้ทำให้แขนข้างนั้นเกร็งจนไม่กล้าขยับ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างตอนที่มือใหญ่นั้นกุมมือเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม
 
 
…อบอุ่น ปลอดภัย…
 
 
“อยากหายเจ็บเร็วๆ จัง”
 
คนที่โตแต่ตัวเริ่มบ่นลอยๆ เขาชักเริ่มไม่รู้แล้วว่ามันกำลังจะสื่ออะไร
 
 
“ชั้นบอกนายแต่แรกแล้วให้ไปห้องพยาบาล”
 
“หมอรักษาได้ไม่เท่าฮิวงะหรอก”
 
พูดบ้าอะไรของมันแบบไม่อาย คนที่เป็นฝ่ายอายแทนเลยกลายเป็นเขา ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดของคิโยชิ หรือเพราะมือใหญ่ที่อบอุ่นนั้นยังคงกุมมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หัวใจจึงเริ่มเต้นโครมครามเหมือนตอนออกกำลังอีกครั้ง และดูเหมือนอุณหภูมิที่ใบหน้าจะสูงกว่าทุกที ไม่ใช่ว่ากำลังจะโอเวอร์ฮีทหรอกนะ
 
 
“ถ้าฮิวงะกอดต้องหายเจ็บแน่เลย”
 
 
“ไม่มีทาง!!”
 
มันรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา จะให้เขาที่เป็นผู้ชายกอดกับมันที่เป็นผู้ชาย ต่อให้ยังกลางวันแสกๆ ฟ้าก็ต้องผ่าลงมาแน่ และถ้าเขายอมกอดมันจะไปหายเจ็บได้ยังไง กอดเขาไม่ใช่หมอ หรือยาที่ทาจมูกแก้เจ็บ
 
 
“หมายถึงชั้นไม่หายเจ็บ หรือฮิวงะจะไม่กอดชั้นหล่ะ”
 
ยังทำหน้าไม่รู้เรื่องถามมาได้อีก ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาเปิดประตูกระแทกโดนจมูกหรือสมอง ผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ของเขาถึงดูแปลกไปกว่าทุกที
 
 
“ทั้งสองอย่างนั้นหล่ะ”
 
ฮิวงะพูดตัดบทและเริ่มขยับมือเตรียมจะดึงออก และก็อีกนั่นแหละ คิโยชิรู้ตัวก่อนที่เขาจะได้พลิกมือหนีด้วยซ้ำ มือใหญ่ๆ นั้นเลยยิ่งกุมมือเขาแน่นขึ้นไปอีก ถ้าไม่นับตำแหน่งกัปตันแล้วดูเหมือนทุกอย่างเขาจะเป็นรองคนๆ นี้ไปเสียหมดแม้กระทั่งส่วนสูงก็ตาม
 
 
“แต่ชั้นเจ็บจมูกอยู่นี่ก็เพราะฮิวงะนะ”
 
นั่น เอาเรื่องอุบัติเหตุมาอ้างอีกแล้ว มันกะจะใช้เป็นข้ออ้างในการถือไพ่เหนือกว่าเขาไปถึงเมื่อไหร่กันนี่
 
 
“รู้แล้วน่า!! แค่กอดเท่านั้นนะ”
 
 
“หรือฮิวงะจะทำอย่างอื่นด้วยชั้นก็ไม่ว่าหรอกนะ”
 
 
“ไม่ทำโว้ย!!”
 
ใบหน้าอารมณ์ดีนั้นดูจะอารมณ์ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก น่าเจ็บใจชะมัด อย่าให้เขาต้องเป็นฝ่ายที่ได้ถือไพ่เหนือกว่าบ้างเชียวนะไอ้เจ้าคิโยชิ จะเอาคืนให้ยิ้มไม่ออกเลย
 
 
 
 
สักพักพอเขาเริ่มขยับตัว คิโยชิจึงปล่อยมือเพื่อให้เขาได้ลุกไปยืนอยู่ด้านหน้าคิโยชิที่ยังคงนั่งอยู่บนม้านั่ง หัวใจที่เต้นโครมครามอยู่รบกวนสมาธิ เมื่อในความคิดมีแต่คำว่ากอดซ้ำไปมา จนทำให้เขาคิดไม่ออก ได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ
 
…กอด…กอดแบบไหนถึงจะดีหล่ะ...
 
 
จนคนที่เป็นฝ่ายรอให้เขากอดก่อนเอื้อมมือมาสัมผัสที่ต้นแขนทั้งสองข้าง ฝ่ามือใหญ่นั้นอบอุ่นเหมือนกับที่กุมมือเขา ตอนนี้ความอบอุ่นนั้นส่งผ่านมาที่ต้นแขน และใบหน้าที่เงยดูเขาอยู่ก็กำลังยิ้ม ยิ้มแบบอ่อนโยน คล้ายกับกำลังบอกว่าไม่ต้องกังวล
 
 
เหมือนร่างกายขยับไปเองตอนที่ก้าวเข้าไป และนั่งคร่อมลงบนขาของคิโยชิ โน้มตัวเข้าหาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นไว้อย่างกลัวๆ ซุกหน้าผากลงบนไหล่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ไม่กล้าจะดึงให้อีกคนเข้ามาใกล้ และไม่กล้าจะทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ร่างกายเหมือนจะสั่นนิดๆ ตอนที่ถูกแขนของอีกคนโอบไว้ และรั้งให้เข้าใกล้มากขึ้น
 
 
“ฮิวงะ”
 
เสียงนั้นกระซิบอยู่ใกล้หู ขณะที่โดนจมูกฝังลงมาในเรือนผม เหมือนกับริมฝีปากที่พร่ำเรียกชื่อก็กำลังกดจูบไปตามขมับไล่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งที่หน้าผาก ริมฝีปากนั้นเริ่มจูบซ้ำๆ คล้ายกับปลอบประโลมให้เขาหยุดสั่น
 
 
“อือ”
 
ได้ยินตัวเองทำเสียงแปลกๆ ไม่รู้ว่าเป็นเสียงตอบรับที่ได้ยินอีกคนเรียกชื่อ หรือเป็นเสียงที่บอกว่าพอใจอะไรเมื่อจูบนั้นเริ่มไล่ลงมาที่เปลือกตาหลังจากโดนถอดแว่นออกไปแล้ว และยังคงไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงปลายจมูก แต่ก่อนจะถึงริมฝีปากคิโยชิกลับหยุด
 
 
“ฮิวงะ”
 
เสียงทุ้มกระซิบเรียกชื่ออีกครั้ง แม้แว่นสายตาจะถูกถอดออกไป แต่ใบหน้าของคิโยชิที่อยู่ใกล้มากตอนนี้ทำให้เขามองเห็นสีหน้าของคนมองโลกในแง่ดีได้ชัดเจน แววตาที่จ้องมองมาอย่างอ่อนโยนทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายหลบมองลงต่ำ
 
“ถ้านายจูบชั้นตอนนี้จะหายเจ็บทันทีเลยนะ”
 
 
 
 
ฟางเส้นสุดท้ายของกัปตันหนุ่มนักบาสขาดผึง หมัดหนักๆ เลยอัดเข้าที่ปลายคางของราชาไร้มงกุฏอย่างจัง ส่งผลให้ใบหน้าหล่อๆ นั้นหันไปตามทิศทางของหมัดทันที
 
 
“ฮิวงะทำชั้นเจ็บอีกแล้ว”
 
ขนาดโดนต่อยมันยังไม่โกรธ หน้าของคนที่เพิ่งเจ็บตัวยังคงยิ้ม นี่คือผลของการมองโลกในแง่แบบสุดโต่งหรือเปล่า มือใหญ่ๆ นั้นถึงได้กลับมาคว้าตัวเอาไว้อีก
 
“ถ้าจะให้หายเจ็บทั้งหมดนี่ต้องทำมากกว่าจูบแล้วนะ”
 
 
“ไม่ทำ!!! โว้ย!!!”
 
โวยวายเสร็จก็ลุกหนีเดินปึงปังออกจากห้องชมรมทันที ทิ้งผู้ปกป้องใต้แป้นของเซย์รินที่เพิ่งโดนเขาทำให้เจ็บตัวทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจเอาไว้ในห้องชมรมหลังจากโดนปิดประตูกระแทกใส่อย่างแรง สมน้ำหน้ามัน! อยากอ้างโน่นนี่ดีนัก ถ้ามันจะจูบไปตั้งแต่เมื่อกี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว จะมาอ้างให้หายเจ็บเหมือนที่ขอจับมือขอกอดทำไม
 
“ไอ้เจ้าบ้าคิโยชิ!”
 
 
 

– E N D –

 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
 
เทปเปย์เนียนนน T v T เนียนมากเลยค่ะ!
คาแรคเตอร์ของเทปเปย์เป็นอะไรที่เราแพ้ทางสุดๆ ตัวใหญ่ ใจดี อบอุ่น ชอบยิ้ม
ฮืออออ ยอมค่ะยอม T//////T
 
เป็นบ้าเทปเปย์มากถึงมากที่สุด ฟินคู่สองพี่เปย์จนต้องระเบิดออกมาเป็นฟิคเลยค่ะ
แงงงง น่ารัก เทปเปย์น่ารัก แล้วฮิวงะก็ซึน ซึน ซึนมากด้วย ; v;

5 comments

  1. ความจริงที่ว่าฮิวงะจะกลับแล้วก็คือไม่ได้กลับ ต้องมาอยู่ดูใจ(?)เขาก่อน เป็นห่วงก็บอกถึงจะเป็นเพราะฝีมือตัวเองก็เถอะ
    พอยด์ที่ว่าเทปเปย์ยิ้มเป็นพระอาทิตย์ทุกครั้งเนี่ยก็ยิ้มให้ทุกคนแหละแต่กับฮิวงะมันก็พิเศษกว่าใครๆอยู่แล้วเปล่า กัปตันจะต้านทานยังไงไหว

    ไม่อยากใช้คำว่าเนียนกับเทปเปย์เลยค่ะ นี่มันจงใจหาโอกาสชัดๆ!! ไงหละขอมากดีนักโดนเสยคางเลย ก็รู้อยู่ว่าเขาหมัดหนักเนี่ย

    Like

  2. ความจริงฮิวงะก็จะกลับแล้วแหละแต่เพราะคนที่เข้ามาเป็นเทปเปย์ไงถึงได้ยังอยู่ต่อ มาอยู่ใจ(?)ก่อน
    พอยด์ที่ว่ารอยยิ้มของเทปเปย์เป็นแบบนั้นเสมอไม่ว่ากับใครแต่มันพิเศษกว่าแน่ๆถ้าคนที่ยิ้มให้เป็นฮิวงะ

    ไม่อยากใช้คำว่าเนียนเลย เทปเปย์จงใจหาโอกาสชัด!! ไงหละขอมากดีนักเจ็บคางด้วยเลยเห็นไหม

    Like

  3. แงงงงงงงงงงงงงง /มาพร้อมเสียงกรีดร้องอะเกน/
    ป๊าม๊าน่ารัก ป๊าม๊าแห่งเซย์รินนี่ชั่งน่ารักเป็นที่สุด
    พี่เทปเปย์น่ารักกกกกก เนียนมากๆๆๆๆๆๆๆ พ่อหมีตัวใหญ่ใจดี
    พี่ฮิวงะน่ารักกกกกก ซึนเดะเระ อรั้ยยยย คุณแม่ปากร้ายใจดี
    เขินอ่ะ เขินแทนพี่ฮิวงะ อร๊ายยยยย

    Like

    1. //กรีดร้องเป็นเสียงประสาน พี่เป็นบ้าคู่นี้มากเลย T//////T ชอบป๊าม๊ามากกกก

      ดีใจที่ชอบนะค๊าาา * 3*,,

      Like

Thank you for your comment ♥