Day: June 22, 2017

[Preview] FFXV Anthology – Flip: You may never know (Noctis x Prompto)


8.7.17 : Game Festival : Press start @C8
FFXV Anthology – Flip
Author: Shintmg | NK.nineti★ | Yaoyuay
Title: You may never know
Pairing: Noctis x Prompto | Cor x Prompto
 
 
 
 
 
 
น็อค ฉันรักนาย…
 
เหมือนทุกครั้งที่เคยส่งยิ้มให้ เห็นแค่ภาพเหมือนของรอยยิ้มบางตรงมุมปากตอนประสานสายตา ไม่มีคำทักทายอื่นนอกจากสีหน้านิ่งขรึมมองตอบ เนิ่นนานจนกระทั่งละสายตาจากกัน แล้วหัวใจก็เบาโหวงหายไปจากตรงนี้แต่กลับไปอยู่ตรงนั้นที่เพิ่งผ่านมา
 
ทุกอย่างของฉัน เป็นของนาย…
 
เหมือนทุกครั้งที่เคยถูกสัมผัส ร้อนวาบอยู่ภายในวูบไหวจนร่างกายหยุดชะงักแต่กลับไม่ขัดขืน อ่อนไหวโน้มกายตามฝ่ามือลูบผ่าน ตอบรับความห่วงหาอ่อนโยนเอ็นดูทั้งที่สถานะไม่ถูกกำหนด
 
แม้แต่ตอนนี้ ก็ยังเป็นของนาย…
 
เหมือนทุกครั้งที่เคยจูบ แผ่วเบานุ่มนวลทะนุถนอมราวกับสิ่งล้ำค่า สวมกอดโอบประคองคล้ายกลัวแหลกสลายหากรุกล้ำ ทุกการแลกเปลี่ยนส่งผ่านเคลิ้บเคลิ้มถวิลหาซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่หยุดหย่อนเลิกรา หวานแปลกแตกต่างแต่กลับวาบหวามแม้ไม่ใช่สัมผัสจากคนรัก
 
ทั้งหมดของฉัน เป็นของนาย…
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ต้องทำเป็นอวดเก่งเลย”
 
ฝ่ามือสัมผัสลงมาบนศีรษะอีกครั้งอย่างคุ้นเคยแล้วก็วางทิ้งไว้อย่างนั้นขณะมองหน้าแล้วส่งยิ้มกว้าง ๆ ให้กัน นานเหมือนกับถูกหยุดเวลาไว้แต่หัวใจยังเต้นรัวอยู่ตลอดตอนมองเห็นคนตรงหน้าเริ่มเม้มปากคล้ายกำลังบอกตัวเองให้อดทน ลมหายใจเริ่มสูดเข้ายาวหนัก ๆ แล้วสายตาที่เมื่อครู่ยังประสานกันอยู่ก็เปลี่ยนเป็นมองต่ำลง ริมฝีปากเม้มชิดกันเริ่มอ้าออกช้า ๆ
 
เหมือนตอนนั้นที่ทุกอย่างรอบตัวถูกกันออกจนหายไป แม้แต่เสียงทั้งหมดก็เหลือเพียงแต่เสียงหัวใจของกันและกัน ปั่นป่วนวูบวาบอยู่ในท้องต่ำลงไปแล้วก็วูบไหวขึ้นมาอีกครั้ง คล้ายต้องมนต์สะกดของความรู้สึกให้อารมณ์ความต้องการเป็นฝ่ายนำทุกส่วนของร่างกายเคลื่อนไหวตามใจตัวเอง โดยไม่รู้ตัวระยะห่างค่อย ๆ ถูกทำให้หายไป ทีละนิด ผลักดันความต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อลมหายใจเป่ารดสลับกัน ไปมา ใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น อยู่ตรงแถวปลายจมูกขยับเข้าใกล้เหนือริมฝีปาก
 
แล้วตอนนั้นเหมือนบางอย่างโฉบวาบผ่านลงมาขโมยหัวใจที่เต้นรัวอยู่หายไปอย่างลืมเลือนแม้แต่จะทวงคืน ชาวาบว่างเปล่าหยุดชะงักแล้วสะดุ้ง เมื่อกลายเป็นที่ตรงอื่นถูกทักทายกดแนบลง เนิ่นนาน แทนจะเป็นริมปากกลับเป็นหน้าผากถูกแตะลงแนบชิดด้วยแรงจากหน้าผากเหมือนกันกดหนัก ๆ บอกให้รู้ว่าถูกมันเขี้ยว แล้วเสียดายเหลือเกินเมื่อไม่ได้จูบ
 
“ฮึ้ยยยย!!”
 
เสียงหัวเราะแก้สถานการณ์เรียกสติให้กลับมาอยู่ที่เดิม เมื่อไม่ใช่สถานที่และสถานการณ์เหมาะสมเป็นใจ เลยได้แค่อีกครั้ง ถูกมือข้างเดียวกันยกขึ้นสัมผัสตรงที่เดิม ซุกฝ่ามือเข้ามาในเรือนผมก่อนขยี้เบา ๆ อย่างเอ็นดูระหว่างมองตาแบบที่รู้กันว่าต่างฝ่ายต่างต้องห้ามความต้องการตัวเองมากเพียงใด เมื่อได้เริ่มสัมผัสก็ยากจะบอกตัวเองให้หยุด โหยหาเว้าวอนออดอ้อนแต่กลับต้องห้ามปราบ เสียงของความปรารถนาที่ดังอยู่ข้างในตลอดเวลา
 
นุ่มนวล อ่อนโยน แผ่วเบา บางทีก็เน้นหนัก หยอกล้อ ยียวน เย้าแหย่บางเวลา ไม่บังคับรุกล้ำล่วงเกินหากไม่เต็มใจ ขออนุญาตเสมอด้วยการออดอ้อนผ่านสายตา ผ่อนคลายสบายใจแต่กลับปวดร้าว ฝืนกลั้นความรู้สึกจุกแน่นเจ็บในอกแทบทนไม่ไหวเมื่อทุกสัมผัสซ้อนทับเรียกภาพและความรู้สึกเกิดขึ้นพร้อมกัน เหมือนกัน แบบเดียวกัน เจ็บปวด เก็บซ่อน ปิดบัง อย่างที่ไม่สามารถแสดงออกหรือสารภาพ ต่อหน้าคนที่เขารัก รักมากที่สุด
 
 
 
 
เหมือนกับครั้งที่เคยสบตากันเป็นครั้งแรก เพียงแต่ครั้งนี้ สีหน้านิ่งขรึมนั้นมีแรงตึงอยู่ตรงหัวคิ้วน้อยกว่าครั้งก่อน แล้วดวงตาที่อ่านความรู้สึกยากนั้นก็มองผ่านกันและกันตลอดเวลาเมื่อระยะห่างค่อย ๆ หดสั้นลง ทั้งที่ให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าภาพเหมือนของความอบอุ่นบนริมฝีปากนั้นเป็นความจริงหรือภาพซ้อนทับจินตนาการ ตอนรอยยิ้มบางส่งคำทักทายเพียงแผ่วเบาแล้วความเคอะเขินทั้งหมดก็ถูกทำให้หายไปตลอดกาล
 
จากในอกวูบลงไปอยู่ในท้อง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ความเงียบ ยังดำเนินต่อคล้ายไม่สิ้นสุด เหมือนสายตาที่ยังไม่ละจากและไม่มีทางละจาก แล้วความวูบไหวข้างในท้องก็หายไป แต่ไม่ใช่หายไป ตลอดกาล เมื่อรับรู้สถานที่แห่งใหม่ของความหวั่นไหว ไม่ใช่ที่เดิม ไม่ใช่ข้างในตัวเขา เหมือนกับเคยเกิดขึ้นมาก่อน เหมือนกับเคยหายไปก่อนหน้านี้ หายไปอยู่กับน็อค
 
“เป็นยังไงบ้าง”
 
จนใกล้พอที่เสียงทุ้มต่ำนั้นจะเอ่ยให้ได้ยินกันแค่สองคน ความห่วงใยก็ถูกส่งผ่านมาพร้อมน้ำเสียงและแววตา อบอุ่น อ่อนโยน จนลืมไป ลืมเลือนไปแม้แต่กระทั่งจะตอบรับหรือทักทาย
 
“พรอมพ์โต้”
 
กระทั่งเสียงอบอุ่นนั้นเรียกชื่อซ้ำ ความร้อนวาบบนใบหน้า และแรงกระตุกในอกถึงพาเขากลับมาปัจจุบัน ณ วินาทีที่พยักหน้ารับพร้อมคำตอบ
 
“ฝึกใช้อาวุธเริ่มคล่องแล้วครับ”
 
เม็ดเหงื่อจากโคนผมหยดลงโดนลำคอ ไหลลงตามร่องกระดูกไหปลาร้าไปจนถึงแผ่นอก แรงไหวของไหล่เคลื่อนขึ้นลงพร้อม ลมหายใจหอบเข้าออกเบา ๆ เมื่อเพียงไม่นานที่เขาเพิ่งได้เก็บอาวุธหายไปพร้อมแสงเรืองสว่างสีน้ำเงินของเวทย์มนต์ และนับเป็นครั้งที่สามหลังจากการกล่าวคำสาบานที่เคยได้เหนี่ยวไกปืนส่งกระสุนออกไป คนฟังไม่ได้แสดงสีหน้าเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง กลับกันแขนสองข้างที่ประสานกันไว้ตรงอกค่อย ๆ คลายออก ระยะห่างที่ได้เว้นไว้ครั้งแรกเพียงแค่มองตา ค่อย ๆ ขยับเมื่อมีรอยยิ้ม เข้าใกล้เมื่อได้พูดคุย และหายไปในที่สุดเมื่อฝ่ามือใหญ่สัมผัสลงแผ่วเบาบนเรือนผม
 
“เก่งมาก”
 
แล้วบางสิ่งที่ชัดเจนก็เกิดขึ้นตอนนั้น ตอนสัมผัสแทรกเข้ามาจากปลายผมจนแตะลงบนศีรษะ ตอนคลื่นปั่นป่วนจากกลางท้องเกิดขึ้นเมื่อใบหน้าสูงกว่าโน้มต่ำลงมาระดับเดียวกัน ตอนสายตาไม่สามารถละหนีจากดวงตาที่คล้ายกำลังร้องขอ ตอนร่างกายขยับไปจากที่ยืนอยู่ไม่ได้แม้ว่าไม่ถูกดึงรั้ง ตอนลมหายใจถูกลืมเลือนไปจากกันและกัน ตอนความรู้สึกข้างในหัวใจไม่มีทางหลีกเลี่ยง หลบหนี เมื่อถูกมอบให้กับคนสองคน พร้อมกัน
 
 
 

See you @Game Festival : Press start

 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
แอนโธคู่น็อคคอร์พรอมพ์ ลงงาน Game Festival : Press start วันที่ 8 ก.ค. นี้ค่ะ!
แวะมาทักทาย เมาท์มอย อุดหนุนได้ที่บูธ C8 นะคะ *////*)❤
ฝากซาซังวางเล่มเอาไว้ แต่เรียกหาทักทายกันได้นะค๊า~

เอาพรีวิวเรื่องแรกมาชักชวนลงเรือแห่งความบาปที่พ่ายให้กับพลังแห่งเลขสี่ของท่านจอมพลก่อน
ถ้าหากว่าชอบจะดีใจมากเลย เพราะเราถอนตัวจากความพัวพันยุ่งเหยิงด้วยเงื่อนปมแห่งความรู้สึกนี้ไม่ได้แล้วววววว~~