Month: October 2016

[Fic Mystic Messenger] Relationchips (Seven x Yoosung)


Title: Relationchips
Author: Yaoyuay
Fandom: Mystic Messenger
Pairing: Seven x Yoosung
Rating: PG
Warning: Yaoi
Spoil Alert: *Spoil Jumin Route: 7th Day
 
 
 
 
 
เขาถูกเซเว่นอุ้มขึ้น อุ้มขึ้นสูงจนลอยจากพื้น รู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนวนเป็นลูกข่างเมื่อเซเว่นพาเขาหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วขณะเคลื่อนที่ห่างออกมาจากคอมพิวเตอร์ โลกเริ่มหมุนเร็วขึ้นและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า กลัวว่าจะร่วงลงมาเลยรีบเอาแขนสองข้างกอดรอบตรงปกเสื้อฮู้ดแล้วซุกหน้าเอาไว้ เหมือนกำลังถูกพาเล่นแบบเด็กๆ เลยเผลอหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาเสียงดัง สองแขนที่ประสานกอดแน่นตรงต้นขาออกแรงรัดแน่นขึ้นเมื่อเซเว่นพาเขาเหวี่ยงหมุนรอบตัวเร็วขึ้นกว่าเดิมไปในทิศทางตรงข้าม
 
ร่างกายสัมผัสกับสิ่งอื่นนอกจากอากาศกับเสื้อผ้าของเซเว่น เป็นเบาะนุ่มของโซฟาหนังตรงมุมห้องเมื่อเขาถูกปล่อยตัวลงอย่างผิดท่า เพราะพอเขาลงถึงโซฟากลับเป็นเซเว่นที่เสียการทรงตัวจนล้มลงทิ้งน้ำหนักทั้งหมดให้เป็นภาระเขา อั่ก! หนักเหมือนกันแฮะ แต่เจ็บตัวแบบนุ่มนิ่มได้ไม่นานหลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็หายไปทันทีเมื่อรู้สึกว่าเซเว่นเข้ามาอยู่จนใกล้ ใกล้มาก ใกล้เกินกว่าจะทำให้เขาหลบสายตาหนีไปมองอย่างอื่น
 
 
…เอ๋? เดี๋ยวก่อนนะ
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง…

 
 
 
 
 
 
‘กรุณาระบุตัวเลข 707 ในระบบเลขฐานสอง’
 
 
เอ่อ…ถ้าตอนนี้เขาอยู่ในโลกของ LOLOL คงมีอีโมจิจุดกลมเรียงเป็นแถวยาวอยู่ข้างบนหัวขึ้นมาเรื่อยๆ ระหว่างที่เขากำลังยืน..เอ่อ..เผชิญหน้าอยู่กับประตูห้องพูดได้ ไม่มีอะไรบรรยายความรู้สึกของ ยูซอง คิม ได้ดีไปกว่าคำว่าเอ่อและดอทดอทดอทอีกแล้ว
 
“นี่มันอะไรเนี่ย…”
 
เลขฐานสองคืออะไร มีอยู่ในพจนานุกรมของยูซอง คิมหรือเปล่า เซเว่นนายเป็นคนทำประตูห้องให้พูดได้แล้วมาถามรหัสผ่านใช่ไหม นี่มันอะไรเนี่ย เขาแค่จะมาเอาฮันนี่บุดด้าชิพเท่านั้นเอง
 
“เซเว่นเปิดประตูที!!~~”
 
 
‘ข้อมูลไม่ถูกต้อง คุณแอบหลับในวิชาเรียนใช่ไหม’
 
 
ยังคงเป็นเสียงประตูหุ่นยนต์โต้ตอบกับเขา ไม่มีวี่แววการต้อนรับจากมนุษย์ จากเจ้าของห้อง ผมจะมาหาเซเว่นนะ ไม่ได้อยากมาเจอประตูห้องเลย ผมคุยกับคอมพิวเตอร์ไม่รู้เรื่อง เซเว่นไหนบอกว่าถ้าผมเลิกเรียนแล้วให้แวะมาได้เลยไงนายไม่ได้กำลังแกล้งผมอยู่ใช่ไหม
 
“เซเว่นนนนน~~เปิดประตู!!!!!!”
 
ส่งเสียงตะโกนเรียกไม่รู้อีกกี่ครั้งจนแสบคอไปหมด มีเซเว่นอยู่ในห้องนี้จริงใช่ไหม? หูของนายยังใช้งานได้อยู่ใช่ไหม? นี่คือสิ่งที่เขาคิดระหว่างยังคงร้องเรียกเจ้าของห้องให้เปิดประตูไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับนอกจากประตูห้องที่เริ่มบอกให้เขาพูดว่าฉันอยากจะเต้นเป็นภาษาอาราบิค อะไรอีกกกก!!
 
ในที่สุดความอดทนก็มาถึงขีดสุดท้าย กำปั้นเป็นอย่างเดียวที่เขาคิดออกให้ช่วยส่งเสียงรัวเคาะประตูด้วยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจากการคลิกเมาส์กดคีย์บอร์ดเป็นหมื่นครั้งจนได้อยู่แรงก์สอง ยังไม่ได้ยินอีกให้รู้ไป
 
 
‘กรุณาอย่าเคาะประตู ไม่อย่างนั้นฉันจะระเบิด’
 
 
…หา!!!??…
 
 
“เซเว่นนนนนน~~~~~~~!!!”
 
 
 
 
 
 
เขาล้มลงบนโซฟาโดยมียูซองอยู่ด้านล่างตรงระหว่างสองแขนที่เพิ่งยันตัวขึ้นมา หลังจากล้มทับปล่อยน้ำหนักลงบนตัวยูซองไปเต็มๆ มุมแบบนี้ ท่าแบบนี้ มองตากันแบบนี้เขาว่ามันคุ้นๆ แปลกๆ เหมือนกับเคยเห็นอยู่ในโทรทัศน์บ่อยๆ โดยไม่คาดคิดมันเกิดขึ้นกับเขา กับน้องชายตัวเล็กจนได้ พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพระเอกในละครถึงไม่ยอมขยับหนี หรือนางเอกในละครจะจ๋องพระเอกตาแป๋วจนทำให้ใจเต้นโครมคราม
 
ยูซองไม่พูดอะไรเลย เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน เมื่อกี้นี้ยังหัวเราะเล่นกันได้ปกติ อุ้มเจ้าตัวขึ้นจากพื้น พาหมุนไปมารอบห้องเมื่อกี้ก็อยู่ใกล้กันเหมือนกับตอนนี้นั่นแหละไม่เห็นจะคิดอะไร แล้วทำไมอยู่ๆ พอเสียงหัวเราะหายไปบรรยากาศมันถึงเปลี่ยนไปแบบชวนให้ร้อนวูบวาบที่หน้า แล้วตอนนี้เขาเริ่มจะคิดอะไรแปลกๆ ขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่กำลังดังลั่นอยู่ในอกแล้วล่ะสิ
 
 
…เอ๋? เดี๋ยวก่อนนะ
ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น…

 
 
 
 
 
 
รู้ล่ะว่าต้องง้อ แต่ก็ยังอยากแกล้งให้แก้มป่องๆ นั้นพองกว่าเดิมจนชักอยากจะยื่นนิ้วไปจิ้มเล่นดูว่าจะนุ่มนิ่มแค่ไหน ยูซองทั้งงอนทั้งโกรธจนแก้มพองไปด้วยลมและหน้าก็มุ่ยจนคิ้วขยับมาชนกัน ดูเหมือนถ้าเขามาเปิดประตูห้องช้ากว่านี้อีกนิดเด็กน้อยของ R.F.A คนนี้คงร้องไห้ลั่น อาจเพราะตะโกนเรียกเขาอยู่ด้านนอกจนแสบคอแต่ก็ฉลาดไม่น้อยเลยที่เข้ามาเรียกเขาในห้องแชท เพราะชอบเลยยิ่งอยากจะแกล้งอยู่แล้ว ตอนนี้เลยยิ่งอยากแกล้งต่อไปอีกสักหน่อย
 
“นายชอบประตูห้องฉันใช่มั้ย? ฉันเขียนโปรแกรมขึ้นเป็นพิเศษเลยน้า~”
 
ยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ ตั้งใจเตรียมดูปฏิกิริยาตอบสนองของเด็กน้อยยูซองชัดๆ มันเขี้ยวตาขวางๆ ที่พยายามทำเป็นปั้นหน้าดุกับริมฝีปากที่คว่ำขึ้นเป็นสามเหลี่ยมดูเหมือนหน้าบึ้ง คงพยายามจะบอกให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการแบบนี้น่ะมันน่ารักชะมัด! น่ารักเสียจนเขาไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี
 
 
“ประตูห้องอะไรบังคับให้ผมพูดเป็นภาษาอาราบิคด้วยเล่า!!”
 
 
แกล้งทำเสียงดุอีกด้วยแหนะ แต่หางเสียงเหมือนจะสั่นนิดๆ นะ แล้วหน้าบูดบึ้งเมื่อกี้ก็ดูจะผ่อนคลายกล้ามเนื้อลงหน่อยจนเกือบกลับเป็นปกติแล้ว แกล้งยูซองนี่สนุกชะมัดเลยให้ตายสิ
 
“เอ๋!? อ้าว? นายไม่ได้เรียนภาษาอาราบิคที่โรงเรียนเหรอ?”
 
 
“..เซเว่นน…”
 
 
เสียงแบบอ้อนๆ ของยูซองกลับมาแล้ว แบบนี้แหละเขาถึงต้องยอมแพ้ทุกทีเวลาแกล้ง ไม่น้ำตาก็เสียงอ้อนเรียกชื่อเขาแบบนี้ กับผู้หญิงสวยน่ารักเขาจะอ่อนไหวได้แบบนี้ไหมเนี่ย
 
“โอเค โอเค นายจะมาเอาฮันนี่บุดด้าชิพใช่ไหม”
 
 
“เย้!~ ให้ผมนะ ให้ผม”
 
มีประกายแสงวิ้งวับตรงปลายตาของเด็กน้อยที่กำลังกระโดดโลดเต้น ถ้า LOLOL เป็นอับดับหนึ่ง ฮันนี่บุดด้าชิพคงเป็นอันดับสอง เอ…แล้วเขาจะเป็นอันดับที่เท่าไหร่ของยูซองนะ ว่าแต่เขาคิดอะไรออกมาเนี่ย
 
 
“เอาล่ะ!”
 
ขึ้นต้นประโยคแล้วแกล้งเดินห่างยูซองออกมา แอบหันไปมองด้วยหางตานิดๆ เห็นประกายแสงวิบวับนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวัง ยูซองมองตามเขาทุกการเคลื่อนที่ในห้องนี้เลย
 
“เอานี่ไปก่อน”
 
ยื่นมันฝรั่งทอดกรอบรสน้ำผึ้งส่งให้ ยูซองแทบจะหุบยิ้มไว้ไม่ได้ตอนที่รับไป ท่าทางตื่นเต้นดีใจปิดเอาไว้ไม่มิดระหว่างที่เจ้าตัวถามแต่ว่าแกะกินได้เลยใช่ไหม หลังจากมันฝรั่งชิ้นแรกก็ถูกส่งเข้าปาก พอสีหน้าปลื้มปริ่มดีใจเหมือนมีแสงพุ่งออกมาตอนเคี้ยวเหมือนในรายการชิมอาหารที่เขาเคยเห็นบ่อยๆ ก็เหมือนยูซองจะนึกอะไรขึ้นมาได้
 
 
“นายบอกว่าจะให้ผมทั้งกล่องไม่ใช่เหรอ”
 
ถามจบก็หยิบมันฝรั่งอีกชิ้นเข้าปากต่อทันทีโดยแทบไม่หยุดเคี้ยว เพิ่งเห็นกับตาตัวเองนี่ล่ะว่ายูซองชอบของโปรดของเขาได้ถึงขนาดนี้
 
 
“ใช่แล้ว! ถ้านายช่วยอะไรฉันบางอย่างล่ะก็นะ ฉันจะยกให้ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่ฉันมีเลย”
 
 
“จริงเหรออออ!!”
 
ประกายแสงพุ่งออกจากตาของเด็กน้อยที่เพิ่งกลืนมันฝรั่งทอดอีกชิ้นลงไป
 
“บอกมาเลยเซเว่นจะให้ผมช่วยอะไร”
 
 
เกือบจะหลุดขำประกายแสงฮันนี่บุดด้าชิพ ยูซองนายตลกชะมัด แค่เอามันฝรั่งมาล่อก็ดูจะยอมทุกอย่างแล้วเหรอเนี่ย แต่ไม่แน่ถ้ามีคนเอากิจการของฮันนี่บุดด้าชิพมาแลกเขาก็อาจจะยอมเหมือนกัน
 
“กินฮันนี่บุดด้าชิพถุงนี้ไปก่อน ฉันจะบอกนายหลังจากที่เตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้ว”
 
 
“ผมรออยู่ที่นี่คืนนี้ได้ใช่มั้ย?”
 
 
“อื้อ! นายนอนพักตรงไหนเลยก็ได้ หรือว่าเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องที่ฉันไม่ได้ใช้เล่น LOLOL ก็ได้”
 
ปิดดีลด้วยฮันนี่บุดด้าชิพและ LOLOL ขอบคุณมากยูซอง
 
 
“เอ๋? เครื่องไหนเลยก็ได้งั้นเหรอ”
 
 
“อื้อ! เครื่องนี้ก็ได้”
 
หลังจากเขาพยักหน้าและเปิดเครื่องให้ พอเดินห่างออกมาก็ยังได้ยินเสียงเจ้าตัวร้อง ยะฮู้!~ ดีใจอยู่พักใหญ่ ทั้งร้องเรียกชื่อเขาบอกว่านี่มันกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่นี่! แล้วหน้าจอใหญ่เบิ้มพร้อมการแสดงผลแบบสุดยอดนี่อีก ได้แต่หัวเราะเบาๆ กับปฏิกิริยาตอบสนองแบบหลุดอวกาศของยูซองพร้อมตอบกลับไปว่าเล่นให้สนุกล่ะ ระหว่างที่เขาเริ่มเตรียมการส่วนที่เหลือต่อสำหรับวันพรุ่งนี้
 
 
 
 
 
 
ซูเปอร์แมนยูซองกำลังวิ่งอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ใหญ่เบิ้มและกราฟิกการ์ดสุดเจ๋งแสดงผลแบบคมเฉียบ ฮันนี่บุดด้าชิพกำลังละลายในปากช้าๆ รสชาติแสนอร่อยซึมผ่านทั่วลิ้น ยังมีอยู่อีกเกือบครึ่งถุงวางอยู่ข้างๆ เขาสามารถกินมันฝรั่งแสนวิเศษนี้ได้มากเท่าที่จะมากได้ และยังได้เล่น LOLOL ได้นานเท่าที่จะนานได้ วันดีๆ แบบนี้เขาไม่ได้กำลังฝันไปใช่ไหม เซเว่นนายเป็นคนดีอะไรแบบนี้
 
มอนสเตอร์ตัวที่หนึ่ง ตัวที่สอง ตัวที่สามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบ ซูเปอร์แมนยูซองกำลังฟาดฟันหอกร่ายสกิลด้วยสุดยอดซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทั้งหน้าจอ กราฟิกการ์ด เมาส์ ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์อย่างเขาโดยเฉพาะ ถ้าได้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้แรงก์หนึ่งคงอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
 
 
“ไง~”
 
เซเว่นมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หูฟังเฮดโฟนที่เขาใส่อยู่ถูกคนเป็นเจ้าของถอดออกพร้อมกับส่งเสียงทักทาย เสียงดนตรีและซาวน์เอฟเฟคหายไปเมื่อคนเอื้อมมือมาหยิบฮันนี่บุดด้าชิพเริ่มให้ความสนใจกับหน้าจอตอนที่เขากดเข้าทำเควสพอดี
 
 
“เซเว่นช่วยหน่อย..อ้าาา~”
 
ส่งเสียงขอความช่วยเหลือพร้อมกับอ้าปาก เงยหน้าขึ้นแป๊ปหนึ่งแล้วก็ต้องรีบกลับมามองจอควบคุมการเคลื่อนไหวให้ซูเปอร์แมนในจอยังรักษาฟอร์มไว้ได้ แต่ดูเหมือนว่าเซเว่นยังนิ่ง ไม่รู้ว่าแกล้งนิ่งหรืออะไรยังไง แต่ก็น่าจะรู้นี่น่าว่าเขาขอให้ช่วยป้อนฮันนี่บุดด้าชิพหน่อย
 
“อ้าาาาามมม~~”
 
อ้าปากร้องขออีกที แล้วก็ต้องรออีกตั้งนานกว่ามันฝรั่งทอดกรอบสุดอร่อยจะถูกส่งให้เขายื่นหน้าไปรับในขณะที่เพ่งสมาธิส่วนหนึ่งไปที่หน้าจอ ส่วนหนึ่งอยู่ที่เมาส์กับคีย์บอร์ด ไม่ได้กะระยะห่างว่าจะงับถูกมันฝรั่งหรือนิ้วของเซเว่น เลยกลายเป็นว่าเขางับโดนไปทั้งปลายนิ้วตอนเอามันฝรั่งเข้าปาก ขอโทษทีน้า~
 
เซเว่นยังยืนดูเขาอยู่ แล้วก็หยิบฮันนี่บุดด้าชิพกินไปด้วย จากความเร็วในการฆ่ามอนสเตอร์ ความสมบูรณ์แบบในการหลบหลีก และการทำเวลา ถ้าเขาทำเควสนี้เสร็จบางที อาจจะ ถ้าเขาคาดไม่ผิด ซูเปอร์แมนยูซองจะได้ขึ้นแรงก์หนึ่ง!
 
 
แต่ชื่อว่าเซเว่นไม่เคยปล่อยให้ความสงบอยู่ได้นาน เขาเริ่มรู้สึกถึงแรงยุกยิกตรงด้านหลังพนักพิงเก้าอี้ เริ่มมีเสียงเรียกชื่อเขาบ่อยๆ เหมือนเจ้าตัวกำลังจะก่อกวน
 
“ซูเปอร์เมนยูซองกำลังทำอะไรอยู่เหรออออ~”
 
เสียงเหรอตอนท้ายนั่นอย่างกับปิศาจ เซเว่นชอบหัวเราะเหมือนตัวร้ายเวลาจะแกล้งคน แล้วทุกทีที่เสียงหัวเราะนั้นหยุดลงเขาก็มักจะตกเป็นเป้าหมายของจอมปิศาจทุกที
 
 
ถูกจั๊กกะจี้บนหัวด้วยอะไรบางอย่างแหลมๆ ถ้าให้เดาด้วยสมาธิที่มีอย่างจำกัดเพราะต้องคอยหลบการโจมตีของมอนสเตอร์ในจอ ปิศาจนอกจอน่าจะกำลังแกล้งใช้คางกดลงมาบนผมเขา กดซ้ำๆ ดุ๊กดิ๊กไปมาไม่ยอมหยุด ตั้งใจจะป่วนเขาให้เสียสมาธิเต็มที่ พอคางไม่พอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทั้งแขนและมือ เกาะแกะอยู่แถวๆ ต้นคอและหลังหูแกล้งให้จั๊กจี้
 
แทบจะทนไม่ไหว ขนลุกไปทั้งตัวแต่ก็ยังต้องจับเมาส์กับกดคีย์บอร์ดอยู่ โดนมอนสเตอร์ขย้ำคอไปหนึ่งทีพร้อมกับที่อยู่ๆ ก็มีลมหายใจเป่าใส่ตรงหลังคอ รีบกลิ้งตัวหนีการโจมตีมาตั้งหลักพร้อมกับตะหวาดคนที่กำลังแกล้งสักที
 
“เซเว่นอะไรน่ะ!!!”
 
 
“เป็นกำลังใจให้ซูเปอร์แมนยูซองไง~”
 
เสียงตอบยังเหมือนปิศาจอยู่เลย ให้กำลังใจเขาทำกันแบบนี้ที่ไหน ช่วยออกห่างจากหูและคอผมสักทีเถอะ
 
 
“ผมขอ…เซเว่นหยุดแป๊ปหนึ่ง”
 
 
ไม่มีฟังกันเลย คราวนี้เป็นทั้งจมูกกับปากเลยเขามั่นใจ หอมลงมาบนผมแล้วยังไม่หยุดจะเอาจมูกไซร้อีก เซเว่นขอร้องล่ะ ผมบังคับให้สมาธิอยู่กับเกมไม่ได้แล้ว
 
โชคดีที่สกิลถูกร่ายเอาไว้ตั้งแต่ก่อนที่เซเว่นจะเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาบีบจมูกเขา ร้องโวยวายให้หยุดแล้วก็ยังไม่หยุดจนต้องปล่อยมือจากเมาส์มาดึงมือคนก่อกวนออกก่อนที่อากาศจะขาดหายไปจากปอดเขานานเกินไป พร้อมกับที่เสียงโวยวายของเขาดังขึ้น มหาเวทย์บทใหญ่ก็ถูกร่ายจนจบพร้อมกับวงเวทย์ปรากฎขึ้นบนพื้น ปลายหอกด้ามยาวเรืองแสง แล้วพลังการทำลายล้างที่รุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนก็พุ่งไปยังเป้าหมาย คือมอนสเตอร์ขนาดมหึมาล้มลงเมื่อเอชพีเป็นศูนย์
 
“เยสสสสสส~~~เยส! เยส! เยส! เยส! เยส!”
 
ไม่สนแล้วว่าเซเว่นจะยังยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ หรือจะยังเอื้อมมือมาเกาะแกะก่อกวนเขาอยู่หรือเปล่า ซูเปอร์แมนยูซองฆ่ามอนสเตอร์ได้แล้ว เขาทำเควสสำเร็จแล้ว ต้องได้แรงก์หนึ่งแน่ๆ
 
“เซเว่น ผมชนะ!! ผมชนะแล้ว!!”
 
หันหลังกลับไปหาคนที่ยืนก่อกวนอยู่เมื่อกี้ สองมือบีบตรงแขนทั้งสองข้าง เขย่าร่างในเสื้อฮู้ดสีดำอยู่หลายที แต่ความดีใจที่ระเบิดออกมาตอนนี้ยังไงก็ควบคุมไม่อยู่ เขย่าตัวไม่พอจนต้องขอเอื้อมแขนโอบไปด้านหลัง แนบใบหน้าเข้าจนกดแนบอยู่ตรงอก ออกแรงพร้อมกันทั้งสองแขนรัดเซเว่นด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี
 
“เย้!!!!!!!!!!!! แรงก์หนึ่ง!!!!”
 
 
 
 
 
 
อยู่ๆ ก็ถูกยูซองกอดอย่างไม่ได้ตั้งตัว ทั้งที่เมื่อกี้แค่กะจะแกล้งก่อกวนให้ทำเควสพลาด แต่ไม่รู้เพราะซูเปอร์คอมพิวเตอร์หรือโชคช่วย กลายเป็นว่าเด็กน้อยที่กำลังดีใจอย่างเอาเป็นเอาตายคนนี้สามารถทำเควสได้สำเร็จขึ้นมาเสียเฉยๆ แล้วตอนนี้ความดีใจทั้งหมดนั้นก็กำลังโถมใส่ร่างกายเขาแบบที่ไม่รู้ว่ายูซองเอาแรงทั้งหมดนี้จากไหนมารัดตัวเขาไว้
 
“เฮ้ เฮ้ เย้! เย้!”
 
ทั้งพยายามเรียก และพยายามดีใจไปด้วย ยูซองคงไม่ได้แรงก์หนึ่งจริงๆ ใช่ไหม เขาอยากจะเช็คอันดับแรงก์ LOLOL ตอนนี้ชะมัดเลย แต่ยังคงทำไม่ได้ถ้ายูซองยังไม่กลับไป หรือจนกว่าเขาจะรอดปลอดภัยกลับมาจากภารกิจวันพรุ่งนี้ ที่ทำได้ตอนนี้คงต้องทำเป็นดีใจกับเจ้าตัวไปก่อน
 
ถูกกอดแล้วก็ต้องกอดตอบ เป็นซูเปอร์แมนก็ต้องบินสิ พอไอเดียเกิดขึ้นในหัวก็ออกแรงขยับอ้อมกอดยูซองที่รัดตัวเขาอยู่ออกนิดหนึ่ง ใช้จังหวะที่เจ้าตัวเผลอ ย่อตัวลง ใช้สองแขนรัดตรงต้นขาเอาไว้ แล้วอุ้มทั้งตัวยูซองจนลอยขึ้นจากพื้น
 
“ซูเปอร์แมน บินนนน~~~”
 
อุ้มขึ้นแล้วก็พาหมุนตัวไปรอบๆ ก้าวขาวิ่งไปรอบห้องโดยที่ไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของคนโดนอุ้ม แต่ก็แค่ทีแรกที่เขาพาบินไปจนถึงกลางห้อง พอหมุนตัววิ่งอีกทีก็กลายเป็นเสียงหัวเราะของซูเปอร์แมนตัวน้อยแทนที่จะเป็นเสียงร้องเหมือนทีแรก
 
 
จนกระทั่งมีเสียงร้องบอกให้พอ แล้วเขาเก็เริ่มรู้สึกเหมือนโลกโคลงเคลง หมุนตัวบินอีกทีคราวนี้คงต้องปล่อยให้ซูเปอร์แมนยูซองร่อนลงพื้น กะรันเวย์เอาไว้คือโซฟา พอหมุนตัวอย่างสวยงามพาวิ่งรอบสุดท้ายโลกก็เหมือนกับว่าตะแคงลงจนแทบกลับหัวทันที
 
 
ล้ม..เขาล้มใส่ยูซองพร้อมกับเสียงอั่ก! เป็นแรงกระแทกนุ่มนิ่มพร้อมกับรู้สึกเหมือนกระเด้งอยู่บนโซฟาสองสามทีโดยมียูซองรับเคราะห์อยู่ด้านล่าง กำลังจะใช้สองแขนยันตัวเองลุกขึ้นก็รู้สึกได้ว่าเขากับยูซองตอนนี้กำลังอยู่ในท่าที่หมิ่นเหม่จนทำให้เผลอคิดไปว่าน่าเขินกว่าตอนที่กอดกันเสียอีก
 
เงยหน้าขึ้นจากด้านข้างลำคอของคนที่นอนอยู่ด้านล่าง ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเขินมากกว่าตอนแกล้งหายใจใส่ กะระยะพลาดเพราะยังไม่หายมึนหัวปลายจมูกเลยเฉียดโดนแก้มที่เขาเคยอยากเอานิ้วจิ้มเล่นอย่างไม่คิดอะไร เคลื่อนมาจนอยู่ตรงจมูกที่เป่าลมหายใจโดนกันใกล้กับริมฝีปาก ทั้งที่เมื่อกี้ก็เพิ่งบีบจมูกแกล้งเล่นยังไม่เห็นคิดอะไร
 
 
…แต่ทำไมตอนนี้กลับคิด…
 
 
จากที่ยันน้ำหนักลงบนฝ่ามือเริ่มเปลี่ยนเป็นข้อศอก การขยับตัวยิ่งทำให้ร่างกายเบียดชิดกันมากขึ้นอย่างจงใจ เพราะเขาอยากใช้ทั้งฝ่ามือและปลายนิ้วลูบไปมาช้าๆ บนหัวไหล่ ผ่านเนื้อผ้าของเสื้อสองชั้น ให้ปลายนิ้วมือได้ทำหน้าที่อ้อนวอนพร้อมกับสายตาที่เหลือบมองขึ้น เมื่อยูซองทำท่าจะขยับตัวหนี
 
 
…คิดว่าอยากจะ จูบ…
 
 
เพียงแค่โน้มใบหน้าลงไป หลับตา แล้วแนบริมฝีปากลง ลมหายใจยังคงเป่ารดกันอยู่ใกล้ๆ เปลี่ยนภาพตรงหน้าทั้งหมดกลายเป็นความมืดเมื่อเขาหลับตา อยากสัมผัสความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นเฉพาะแค่ที่ริมฝีปาก
 
แต่ทำไมถึงเป็นตรงแก้มแทนล่ะ? แปลกใจสงสัยเลยลืมตาขึ้นดู กลายเป็นยูซองที่หน้าแดงแจ๋กำลังใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตรงแก้มเขาเอาไว้ ใบหน้าแหยๆ ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงแทบจะจมลงไปกับเบาะโซฟา ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมีฝืนใบหน้าเขาเอาไว้ก่อนที่จะทันได้ทำอะไร
 
 
“เซเว่นนนนนนน!!!~~”
 
 
เหมือนมีเสียงระเบิดเบาๆ ดังฟุ่บ! เมื่อความร้อนทั้งตัวขึ้นมาระเหยออกพร้อมกันทางหน้า รู้สึกเขินสุดชีวิตก็ตอนนี้ นี่เขาทำอะไรลงไป และเกือบจะทำอะไรลงไป หัวใจเต้นโครมครามเหมือนกับจะกระเด็นออกมาข้างนอกเสียให้ได้ รีบเคลื่อนใบหน้าหนีเพราะเขาไม่สามารถจะมองหน้ายูซองได้นานกว่านี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แต่ก็เขินเกินกว่าจะรีบลุกหนีออกไปจากโซฟาได้ ยูซองถ้านายไม่ว่าอะไร ถ้านายยังอนุญาต ขอเขาก้มหน้าหนีอยู่ตรงอกนายแบบนี้อีกสักพักหนึ่งเถอะนะ
 
 
มีเสียงดังรัวได้ยินอยู่ตรงใกล้หู เป็นเสียงจังหวะหัวใจเต้นดังถี่เร็วไม่ต่างจากเขา ค่อยๆ เอียงใบหน้าแนบลงบนแผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอยู่ทุกครั้งที่คนเป็นเจ้าของหายใจเข้าออก เสียงจังหวะข้างในอกข้างซ้ายก็ยังคงเต้นถี่อย่างไม่เป็นจังหวะ ไม่ต่างไปจากเขา ที่กำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้
 
 
…ยูซอง นายเองก็รู้สึกเหมือนกัน ใช่ไหม…
 
 
 

– E N D –

 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
เว่นยูล้างดราม่ามาแล้วค่าาาาา ;;//////;;) ฮรืออออว์ ปาดน้ำตา
รูทป๋าจูเป็นอะไรที่เรากรี้ดเว่นยูที่สุดแล้ว จีบป๋าแต่สนใจแต่เว่นยู ทำไมมมม!!
 
ตอนน้องไปเอาฮันนี่บุดด้าชิพที่ห้องเว่น ทำเราผลาญนาฬิการัวๆ มากค่ะ เพราะเอาแต่กดโทรหาเว่นกับน้องสลับกันรัวๆ แต่ไม่มีใครรับสายเราเลยค่ะ โอ้ววว!! พวกนายสองคนกำลังทำอะไรกัน
 
เพราะอย่างนี้เลยได้เป็นฟิคเรื่องนี้ขึ้นมา ขอบคุณทีมงานสำหรับพื้นที่ว่างให้ได้ใส่จินตนาการค่ะ T////T)
กุบกิบหัวใจมากจนระหว่างที่เขียนก็เติมโน่นเติมนี่ไปอีกเรื่อยๆ เพิ่มจากที่วางพล็อตเอาไว้ทีแรกมากเลย เว่นยูดีอะไรอย่างนี้ๆๆๆๆๆ ❤ ❤ ❤ ❤
 
แอบบอกว่าชื่อเรื่องคราวนี้เราตั้งใจเล่นคำให้เหมือนกับฟิคเรื่อง Relationships ที่บีบหัวใจน้องยูเหลือเกิน
ครั้งนี้เป็น Relationchips *Chips ที่มาจาก Honey Buddha Chips ของทั้งสองคนค่ะ XD