[Preview – Haikyuu Anthology : Asahi x Nishinoya] From dawn to dusk


17.5.15 : Otoko no Yuujou Shonen Jump Only Event @H03
Haikyuu Anthology 「From dawn to dusk」
Pairing : Asahi x Nishinoya
Author: Toophorm | Yaoyuay | PHa’nToM
 
 
 
 
 
“ไอ้ขี้แพ้นี่!!”
 
“เดี๋ยวเถอะโนะยะ!! ว่าเอสแบบนั้นได้ยังไง”
 
“หนวกหู! แล้วไม่จริงหรือไงล่ะ!”
 
“นี่…เดี๋ยวก่อนสิโนะยัตซัง”
 
“เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าอาซาฮีซังไม่กลับมาฉันก็จะไม่กลับชมรมเหมือนกัน!!”
 
หันหลังเดินปึงปังออกจากโรงยิม เสียงกระทืบเท้าตลอดทางตอนเดินออกมาไม่ต่างอะไรกับเสียงรูดบานประตูเหล็กปิดใส่หน้าทุกคนที่ร้องห้ามให้อยู่ต่อ ความรู้สึกโกรธและโมโหยังรวมอยู่ในลมหายใจสูดเข้าออกแรงๆ หลังจากตะโกนขึ้นเสียงดังตอบกลับริวที่พยายามร้องห้ามเพื่อให้เขาใจเย็นลง อารมณ์ใส่ลงไปรวมกับคำพูดว่าไอ้ขี้แพ้ยังอยู่ตรงหัวคิ้วขมวดมุ่นและริมฝีปากเม้มแน่นสนิท
 
 
 
ความโกรธเหมือนกับเหตุการณ์ในวันนั้นวนกลับมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคนล้มเลิกความพยายามตั้งแต่ยังไม่ทุ่มเทจนถึงที่สุดยังเอาแต่อยู่กับความรู้สึกโทษตัวเอง ยังไม่อยากให้อภัยคนที่ยอมแพ้เอาเองง่ายๆ ตามใจชอบหลังจากพ่ายแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น ภาพตอนมีปากเสียงกับคนที่ยืนอยู่เฉยในสนามไม่ยอมร้องขอลูกเซ็ตเอาแต่บอกว่าการทำแต้มไม่ได้ก็เท่ากับไร้ความหมายวนกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่ตอนนั้นเขาทั้งตะโกนใส่ ผลัก ดัน หรือแม้แต่กระชากคอเสื้อจนริวต้องเข้ามาห้าม แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยความเงียบเมื่อคนเดินผ่านข้างตัวไปเขาไปไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ
 
 
 
วันรุ่งขึ้นคนเดินหนีปัญหาก็ยังไม่ยอมเข้าชมรม ทั้งที่เอาแต่ชะเง้อมองไปทางประตูโรงยิมตั้งแต่ตอนมาถึง พยายามคิดในแง่ดีว่าบางทีเขาคงมาเร็วไปหรือคนที่กำลังรอเห็นหน้าอยู่อาจมาสาย ถึงแม้จะถึงเวลาเริ่มซ้อมแล้วก็ยังขอให้ไดจิซังแง้มประตูโรงยิมเอาไว้ ยังเอาแต่ยืนมองช่องว่างระหว่างบานประตูว่าจะมีมือของใครคนหนึ่งที่เขาจำได้ดีมาเปิดออกแล้วเดินเข้ามาซ้อม จนกระทั่งสึกะซังเดินมาบีบไหล่พร้อมกับทำหน้าเศร้าถึงได้ยอมรับว่าคนที่เขารออยู่ไม่มีทางมา
 
 
ความรู้สึกของทั้งสึกะซังและตัวเขาเองที่อัดแน่นจนแทบระเบิดอยู่ข้างในอกผลักดันให้เขาไปหาในวันรุ่งขึ้น เป็นการพบกันที่คนเห็นหน้าเขาคงไม่ตั้งใจอยากเจอ แล้วตอนนั้นความโกรธก็ไม่รู้ว่ากำลังทำให้เขาแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปเมื่อได้ยินคำพูดเสียดแทงตอบกลับทุกคำถามจากเขาที่ตะโกนออกไป เชือดเฉือนตัดพ้อราวกับจะไม่กลับมาเล่นวอลเลย์บอลอีก คิดแทนเอาเองถึงความรู้สึกคนอื่นโดยไม่ยอมตอบคำถามถึงความรู้สึกเรื่องการตบทำแต้ม คนเดินหนีปัญหาเดินหนีความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองก็หันหลังเดินหนีเขาไปอีกครั้ง
 
 
 
…และอีกไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง…
 
 
 
 
 
 
 
 
“บ้าเอ้ย ลูกที่ถูกบล็อกกลับมาพวกนั้น…เรารับ…แทบไม่ได้เลย…!!”
 
“ทำไมล่ะ!! ทำไมไม่โทษฉัน!? ที่แพ้นั่นดูยังไงก็ความผิดฉันชัดๆ ต่อให้รับลูกได้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าตบทำแต้มไม่ได้ ก็ไม่ต่างกับไร้ความหมายหรอก!!!”
 
“อาซาฮี!!”
 
“ไร้ความหมายที่ว่านั่น…หมายความว่ายังไงครับ?”
 
หลังจากเสียงฟาดของไม้ถูพื้นกระแทกกำแพงตรงช่องเก็บล้มลงหล่นบนพื้นพร้อมการระบายอารมณ์ผิดหวังจากการพ่ายแพ้ในการแข่งขัน คำพูดกล่าวโทษฝีมือตัวเองดังให้ได้ยินขณะลูกวอลเลย์บอลยังถูกถืออยู่ในมือระหว่างเก็บอุปกรณ์ พอลิเบอโรบอกว่ารับลูกที่ถูกบล็อกจากการที่วิงก์สไปเกอร์อย่างเขาตบฝ่าไปแทบไม่ได้ ลมหายใจร้อนวูบก็ถูกสูดเข้าพร้อมกับริมฝีปากเม้มติดกันแน่น หัวคิ้วขมวดชนกันจนปวดตึงก่อนคำตะโกนสุดเสียงเถียงกลับว่าเป็นความผิดของตัวเองจะถูกตอบกลับไป
 
 
 
ต่อให้ยังรับลูกได้แล้วเซ็ตเตอร์ส่งลูกต่อมาให้เขาไม่ว่ากี่ลูกต่อกี่ลูกไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางตบฝ่ากำแพงบล็อกของฝั่งตรงข้ามไปได้อยู่ดี เพราะเห็นลูกที่ส่งมาพอตบไปก็กระเด้งกลับ ไม่ว่าจะออกแรงท่อนแขนกับฝ่ามือมากแค่ไหน ไม่ว่าจะพยายามให้ทิศทางของลูกหลบผ่านบล็อกเกอร์ไปเท่าไหร่ กำแพงเหล็กสูงตระหง่านตรงหน้าก็ยังกั้นไม่ให้บอลผ่านไปได้อยู่ดี
 
 
 
สุดท้ายเงาดำของกำแพงที่สูงเกินผ่านไปได้ก็ทำให้ความกลัวเกิดขึ้น กลัวจะเห็นลูกบอลถูกดีดกลับมา กลัวจะเห็นว่าบอลที่ถูกบล็อกนั้นถูกหนุนขึ้นจากพื้น กลัวจะเห็นว่ามีลูกเซ็ตถูกส่งมาให้เขา กลัวจะร้องขอลูกเซ็ตให้ส่งมาหาคนที่ไม่สามารถทำคะแนนจากลูกตบได้อีกแล้ว
 
 
 
มีแรงกระชากตรงคอเสื้อ แล้วตามมาด้วยแรงผลักอย่างแรงดันให้ร่างเขาต้องขยับถอยหลัง หลังจากตอบกลับไปว่าต่อให้ลูกเซ็ตถูกส่งมาเขาก็ทำแต้มให้ไม่ได้ ทุกคำพูดใส่อารมณ์กลับมาตะโกนบอกแต่ว่าอย่ายอมแพ้ ไม่ลองตบดูแล้วจะรู้ได้ยังไง!! ครั้งต่อไปอาจทำแต้มได้ก็ได้!! แรงดึงตรงคอเสื้อยิ่งถูกกำแน่นแม้ว่าเขาจะพยายามรั้งข้อมือเล็กนั้นเอาไว้ทั้งสองมือ แต่ถึงอย่างนั้นร่างก็ยังถูกดันด้วยแรงที่โถมเข้ามาด้วยอารมณ์และเสียงตะโกน ไม่รู้ว่าก้าวถอยหลังจนเท้าไปเยียบกับอะไรตอนมีเสียงเหมือนด้ามไม้หักลง ก่อนแรงผลักดันตรงคอเสื้อและหน้าอกจะถูกดึงออกไปเมื่อถูกเข้ามาห้ามหลังจากคำพูดสุดท้ายของคนที่เคยชื่นชมและนับถือในตัวเขา คำพูดที่ยังเป็นเสียงตะโกนก้องอยู่ในความรู้สึกจนถึงตอนนี้
 
 
 
…บอลที่ผมต่อไปให้นั่น คุณอย่ายอมแพ้เอาเองตามใจชอบสิ!!!…
 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
พรีวิวฟิคส่วนของเราในแอนโธอาซาโนะยะเลื่อนไปออกงานจั๊มป์แทนค่ะ * w *)
เป็นฟิคอาซาโนะยะแบบที่ไม่เคยเขียนมาก่อนเลย
ครั้งนี้หน่วงตับโลว์ชูการ์เป็นครั้งแรกกกก…กกก..กกก ยังไงขอฝากตัวด้วยนะคะ!!

งานนี้ไม่ได้เจอกันเพราะติดธุระที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จริงๆ ค่ะ U_U)
ถึงตัวจะไม่อยู่แต่ก็ขอฝากผลงานเอาไว้ที่บูธ H03 ด้วยนะคะ → ผังบูธในงานค่ะ

8 comments

  1. แอรยยยยยยโผกอดดดดดด >/////////<) เมนเราเหมือนกันค่ะ ชอบอาซาฮิซังกับโนะยะซังมากเลย นานๆ จะเจอคนชอบเหมือนกันค่ะ !!! ฮื้อออออ กอดแน่นนนนน <3

    Like

    1. ส่วนใหญ่เมนคาเงะฮินะกันหมดเยย ว๊ากกกก>w< ยอมเป็นเรือเล็ก55555 ///กอดดดด

      Like

      1. เรือลำเล็กมากอดกันไว้ค่ะ ฮรือออวววว ถึงจะเหงาแต่พอเจอคนชอบคู่เดียวกันแล้วดีใจกอดกันอบอุ่นสุดๆ เลย ฮรือออออ ดีใจที่พบสมาชิกชาวเรืออาซาโนะยะอีกคนนะคะ ฮรืออออ ;///////;)

        Liked by 1 person

      2. อร๊ากก มาลงเรือลำเดียวกัน >//< หาทั้งฟิค โดเสพยากเหลือเกิน ทำเองซะเยยย แฮ่

        Like

      3. กรี้ดดดดด ทำนะคะ ทำๆๆๆๆๆๆ ลงเรือลำเดียวกันแล้วมาช่วยกันแจววว แววววววๆๆๆๆๆ

        Liked by 1 person

  2. เอื้ออออ ตัวแตกตายยแล้วว กรี๊ดซซซซซซซซซว อยากอ่านต่อ
    =////= จะรอสอยนะคะ แอรํยยยยยย <3 <3 <3 <3

    Liked by 1 person

    1. แอรยยยยยย ขอบคุณมากเลยค่ะ XD
      จะคอยมาอัพเดทความคืบหน้าเร็วๆ นี้นะคะ

      Liked by 1 person

      1. หาคู่นี้ยากมากเลยค่า อร้ากกกก เมนเราเยย>\\\< รอสอยนะคะ

        Like

Thank you for your comment ♥