[AU Fic Haikyuu] Ghoul (Asahi x Nishinoya)


Title: Ghoul
Author: Yaoyuay
Fandom: Haikyuu
Pairing: Asahi x Nishinoya
Rating: R
Warning: Yaoi
 
 
 
 
“อาซาฮิซัง..”
 
สัมผัสผ่านแผ่นหลังไล่ขึ้นมาเป็นสองมือที่ลูบผ่านเนื้อผ้าหนาแต่กดหนักไล่สัมผัสเรื่อยๆ ขณะทิ้งน้ำหนักตัวลงด้านหลังพร้อมกับแขนสองข้างที่โอบรอบคอ ลมหายใจร้อนก็เป่ารดใกล้กับใบหูพร้อมเสียงกระซิบแหบแห้งที่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
 
“…หิวแล้วหละ”
 
ริมฝีปากสัมผัสเฉียดตรงใบหู แล้วก็เป็นปลายจมูกที่กดลงพร้อมลมหายใจปล่อยออกมาช้าๆ ก่อนใบหน้าจะซุกลงหาลำคอที่ถูกปลายผมหยักศกปรกไว้ แต่ทั้งจมูกและริมฝีปากก็ยังกดสัมผัสผ่านเส้นผมลงมาถึงเนื้ออ่อนตรงซอกคอพร้อมกับสูดหายใจเข้าในขณะที่ริมฝีปากค่อยๆ อ้าออกลงบนเนื้อใกล้คอ
 
 
คนถูกบังคับให้เอียงคอเมื่อศีรษะเล็กซุกลงมาชิดเริ่มห้าม นอกจากริมฝีปากที่อ้าออกแล้ว ยังเป็นฟันคมๆ ที่ขูดลงบนเนื้อ และเริ่มงับเมื่อลมหายใจถูกเป่ารดถี่ขึ้น
 
“ไม่เอาน่า.. นิชิโนะยะ”
 
 
“อื้อออ..”
 
เสียงร้องประท้วงมาจากเจ้าของฟันที่กดลงบนเนื้อลึกจนเริ่มเป็นรอยให้มีเลือดซึมก่อนจะได้กัดฉีกออกลิ้มรสชาติ มือเล็กที่โอบรอบอยู่ตรงไหล่ก็จิกปลายนิ้วกดลงแทนแรงกัดจากริมฝีปากที่เริ่มเลอะเลือดเมื่อเปลี่ยนเป็นกดจูบลงไปแทนฟันที่เกือบจะกัดเนื้อออกมา
 
 
…ความหิว กำลังทำให้กูลต้องการอาหาร…
 
 
 
“หิวแล้ว.. อาซาฮิซังไม่หิวเหรอ”
 
ปลายนิ้วยังกดเล็บจิกลงใกล้กับกระดูกตรงหัวไหล่ เมื่อกูลแสนซนเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งที่อยากอาหาร มือที่กำลังจะเอื้อมหยิบแก้วกาแฟร้อนบนโต๊ะจึงถูกคว้าไว้ที่ท่อนแขนให้หยุดสนใจตัวเอง ตอนที่นิชิโนะยะกำลังอ้อน ทั้งอ้อน และเรียกร้องความสนใจ
 
“กาแฟไม่อิ่มหรอก”
 
ฝ่ามือไล้สัมผัสจากท่อนแขนมาจนถึงหลังมือ ปลายนิ้วของนิชิโนะยะแทรกลงระหว่างนิ้ว และสอดประสานไว้ก่อนจะค่อยๆ ดึงมือเขาอ้อมไปด้านหลัง แทรกผ่านแผ่นอกเล็กที่แนบจนชิดกับแผ่นหลังเขาหลังจากโดนกัดเนื้อตรงข้างคอจนเป็นแผล
 
“ดูสิ หิวจะแย่แล้ว”
 
มือเล็กบังคับให้เขาเปิดชายเสื้อ และเคลื่อนฝ่ามือผ่านผิวกายใต้เนื้อผ้าเข้าไป ผิวหนังของกูลสัมผัสคล้ายกับมนุษย์ เพียงแต่หากเปลี่ยนมือของเขาเป็นมีดคงไม่สามารถกรีดผ่านหน้าท้องเหมือนกับที่มือเขากำลังสัมผัสอยู่ตอนนี้ได้
 
แต่ที่นิชิโนะยะให้ทำไม่ใช่แหวะหน้าท้องออก สัมผัสที่หลังมือกำลังกดให้มือของเขาแนบลงไปกับผิวเนื้อตรงหน้าท้องมากขึ้น ในขณะที่ความเงียบกำลังเกิดขึ้นเสียงร้องจากกระเพาะที่ไม่ได้รับอาหารมาเกือบเดือนก็ดังขึ้นเบาๆ ให้นอกจากมือของเขา ยังเป็นหูทั้งสองข้างที่ได้ยิน
 
“ได้ยินมั้ยอาซาฮิซัง.. หิวจะแย่แล้ว”
 
 
 
 
 
 
ริมฝีปากกดลงตรงรอยแผลข้างคอบนเลือดที่ยังซึมออกมาจากรอยฟัน กลิ่นคาวเลือดของกูลด้วยกันแม้จะไม่หอมแต่บางครั้งกลับกระตุ้นให้อยากอาหารมากขึ้น
 
 
…โดยเฉพาะ ของอาซาฮิซัง…
 
 
นิชิโนะยะถอนริมฝีปากที่เลอะเลือดออก ก่อนจะทำไปตามความเคยชิน คือสัมผัสรสชาติบนริมฝีปากผ่านทางลิ้นที่เปื้อนน้ำลาย
 
 
…รสชาติ ของอาซาฮิซัง…
 
 
ทั้งเลือด และเนื้อ ถูกฟันกัดฉีกออกกลืนผ่านคอ ในหลายครั้งที่ความอยากอาหารทำให้ต้องเข้าไปกอด และจูบลงใกล้กับลำคอ ก่อนสัมผัสจากริมฝีปากจะเปลี่ยนเป็นฟันกดลงแทนความนุ่ม ความเจ็บปวดที่เรียกให้เลือดซึมไหลออกมาตามแผลกลับเกิดขึ้นก่อนผิวหนังติดเนื้อจะถูกเคี้ยว และกลืนลงคอ ถึงแม้จะไม่ใช่เนื้อมนุษย์ แต่ก็เป็นเนื้อของอาซาฮิซังที่ไม่เคยร้องว่าเจ็บตอนเขาดื้อไม่ยอมดื่มกาแฟ
 
“ไปหาอาหารนะ.. นะ”
 
พูดซ้ำคำท้ายตอนจงใจกดริมฝีปากลงพร้อมกับฟันแหลมที่รอยแผลเดิม แกล้งงับลงซ้ำๆ หวังจะให้คนตัวใหญ่ที่ยังนั่งอยู่ขยับตัว แต่เหมือนกลับเห็นแค่รอยยิ้มมุมปากตอนเงยหน้ามองจากลำคอทั้งที่เลือดก็ติดริมฝีปากออกมามากกว่าเดิม
 
มือที่ยังกดมือของอีกคนให้แนบอยู่ตรงหน้าท้องว่างของตัวเองเปลี่ยนเป็นบังคับให้เคลื่อนกลับไปด้านหน้า ใช้มืออีกข้างเปิดเสื้อไหมพรมของอาซาฮิขึ้นแล้วบังคับให้มือนั้นตบเบาๆ ตรงท้องของเจ้าตัวเอง
 
“อาซาฮิซัง ไม่หิวบ้างเหรอ”
 
ยังคงบังคับให้มือที่ไม่ต่อต้านทั้งตบ และลูบไปมาบนกล้ามเนื้อหน้าท้องของคนที่เขาเพิ่งกัดจนเลือดออกตรงคอ
 
 
“ไม่เลย”
 
มืออีกข้างที่ไม่ถูกคว้าไว้ของอาซาฮิเอื้อมจับแก้วกาแฟแล้วยกขึ้นดื่มอย่างใจเย็น เหมือนว่ากาแฟแก้วนี้จะสามารถทำให้ท้องที่ไม่ได้รับอาหารมานานเกือบเดือนอิ่มได้ด้วยกาแฟเพียงไม่กี่อึก
 
 
ในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนเป็นไถลตัวลงมากอดจากด้านหลัง ปล่อยทั้งมือตรงหน้าท้อง และแผลเลือดออกตรงคอมาเป็นโอบเอาไว้แน่นด้วยสองแขนตรงหน้าอก ใบหน้าก็ซุกแนบไปกับแผ่นหลัง และเริ่มอ้อนต่อ
 
“ลุกเถอะนะ~~”
 
 
เหมือนมีเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วในที่สุดใบหน้าของคนที่ใช้เจลเซ็ตเปิดผมหน้าขึ้นไปจนหมด แต่กลับปล่อยผมสั้นหยักศกระต้นคอเอาไว้ ก็หันกลับมา สองแขนที่โอบอยู่แน่นในทีแรกจึงคลายออกเปลี่ยนเป็นซุกตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวใหญ่กว่าแทน
 
 
“อาซาฮิซัง จะไปหาอาหารแล้วใช่มั้ย”
 
เผลอปล่อยให้ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อรู้ว่ารสชาติของเนื้อชุ่มเลือดที่ถูกฟันกัดเข้าปากจะได้สัมผัสผ่านลิ้น และเติมเต็มความอยากอาหารที่กำลังทำให้กระสับกระส่าย นิชิโนะยะยันตัวขึ้นผ่านแขนที่โอบรอบเอวเอาไว้ ยันเข่าขึ้นนั่งบนขาของคนตัวใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนักเขาไว้ได้ทั้งตัว
 
“วันนี้จะไปที่ไหนดี”
 
ก้มหน้าลงมองเมื่อตอนนี้กลับเป็นเขาที่อยู่สูงกว่า ความอยากอาหารยังไม่ทำให้ดวงตากลับเป็นปกติ ปลายนิ้วของอาซาฮิซังจึงลูบผ่านผมที่ลงมาปรกหน้าผาก ไล่ผ่านลงมาให้เขาต้องหลับตาลง และลืมขึ้นอีกครั้งตอนที่ดวงตากลับเป็นปกติเหมือนเดิม
 
 
“ที่สะพานข้ามแม่น้ำมั้ย อยากลงไปในน้ำหรือเปล่า”
 
ปลายนิ้วไล่มาถึงปรอยผมตรงท้ายทอยที่รวบมัดเป็นหางม้าเล็กๆ ไม่หมด อาซาฮิยังคงสัมผัสลูบไปมาขณะที่โน้มให้ใบหน้าของเขาลงมาชิดจนปลายคางชนกัน
 
 
“อยาก!!”
 
 
 
 
 
เลยเวลาเที่ยงคืนจนเข้าสู่ชั่วโมงเริ่มต้นของวันใหม่ ราวสะพานที่สูงเพียงแค่เอวหากจะยันตัวโน้มขึ้นแล้วก้าวข้ามก็ไม่สามารถป้องกันให้ร่างที่คิดอยากจะปลดปล่อยความต้องการในการมีชีวิตลงสู่ผืนน้ำด้านล่าง
 
ในเงาของความมืด และความเงียบที่นิ่งสงบในกลางคืน ร่างที่สิ้นหวังกับการหายใจยืนพิงรั้วเหล็กที่กั้นระหว่างสะพานกับอากาศก่อนจะตกถึงน้ำ ต่อให้ยืนอยู่ปลายสุดของความยาวสะพานก็ยังมองเห็นว่าร่างสิ้นหวังในชุดสูทพนักงานเงินเดือนจะยืนหายใจอยู่ใกล้ราวสะพานได้อีกไม่นาน
 
 
รอบเอวถูกแขนแข็งแรงของอาซาฮิซังโอบเอาไว้ให้ยืนอยู่กับที่ ยิ่งได้กลิ่นของเนื้อที่ไม่ใช่กูลด้วยกันยิ่งทำให้ยากหากจะต้องบังคับตัวเองให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ ภายใต้เงาของตีกที่ทอดมาถึงปลายสะพาน ลมโชยพัดมาเบาๆ ในความเงียบของอากาศตอนกลางคืน ยิ่งทำให้ได้กลิ่นหอมของร่างที่อีกไม่นานจะกลายเป็นอาหารได้ชัดเจน
 
นิชิโนะยะกลืนน้ำลายที่่พากันไหลออกมาตอนอยากอาหารลงคออยู่หลายครั้ง หากร่างตรงหน้าที่ยังกำราวสะพานอยู่นี้ไร้ลมหายใจ เนื้อที่ยังมีเลือดอยู่ข้างในก็จะถูกกัดฉีกออก และเข้าไปเติมเต็มกระเพาะที่กำลังร้องครวญครางอยู่ตอนนี้ให้สงบลงได้
 
 
…ร่างกายที่อยากอาหารต่างประเภทออกไปจากมนุษย์
กำลังต้องการอาหารที่เรียกว่ามนุษย์…

 
 
น้ำลายเหนียวถูกกลืนผ่านลำคอเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเสียงกระทบกันของราวสะพานเหล็กกับเท้าที่ปีนป่ายขึ้นไปก็ดังให้ได้ยินเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง ก่อนจะไม่มีแม้แต่เสียงร้องตะโกนตอนร่างที่จงใจทิ้งตัวเองให้หล่นจากราวสะพานผ่านอากาศที่ไม่สามารถยึดเหนี่ยวคว้าไว้ด้วยมือ เมื่อปล่อยจากสิ่งที่เคยจับไว้ก่อนหน้า
 
ร่างของมนุษย์ที่จงใจทิ้งชีวิตกระแทกผืนน้ำนิ่งสงบด้านล่างให้แตกกระจายเป็นวงคลื่นก่อนจะจมลงสู่ความลึกของผืนน้ำสีดำ เข้าสู่ช่วงเวลาที่จงใจไม่ตะเกียกตะกายเพื่อรอดชีวิต ช่วงเวลาที่ยังกลั้นลมหายใจไม่ให้สำลักน้ำ ขณะที่ร่างกายกำลังจมดิ่งลง
 
 
“อดทนก่อน..”
 
แขนที่เคยโอบไว้ตรงเอวเริ่มเปลี่ยนเป็นรั้งตัวเขาที่เกือบจะพุ่งออกไปให้กลับมาจนอยู่ชิดเหมือนเดิม เมื่ออาหารที่ใกล้จะไม่ต้องอดทนด้วยความหิวโหยกำลังจะได้ถูกเคี้ยวสัมผัสรสชาติที่ห่างหายมานาน เติมเต็มความต้องการที่เกือบจะทำให้ขาดสติอยู่อีกไม่นาน อาซาฮิซังก็ยังไม่ปล่อยให้เขาได้พุ่งตามไปหาร่างที่เพิ่งทิ้งชีวิตของตัวเองลงไป
 
“ฝึกที่จะไม่ฆ่าคนเพื่อกินมาได้ขนาดนี้แล้วนะ นิชิโนะยะ”
 
ฝ่ามือใหญ่อีกข้างของอาซาฮิซังลูบศีรษะผ่านหน้าผากลงมาจนถึงดวงตา ให้เขาต้องหลับตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงตั้งแต่ตอนเห็นว่ามนุษย์ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายกระโดดลงน้ำ สูดหายใจเข้าออกควบคุมสติเพื่อบรรเทาความอยากอาหารแบบที่อาซาฮิซังเคยสอนไว้ แต่น้ำลายที่ยังไหลออกมาเองตามกลไกลของร่างกายก็ยังคงไหลผ่านมุมปากออกมาจนถึงปลายคาง ให้ปลายนิ้วของคนที่พยายามช่วยเขาควบคุมสติอยู่จะต้องเอื้อมมาเช็ด
 
แต่ลมหายใจกลับสูดเข้าออกควบคุมสติตัวเองอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเวลาผ่านจนถึงช่วงที่ร่างกายในน้ำจะกลั้นหายใจต่ออีกไม่ได้ แล้วการสูดหายใจอีกครั้งจะกลายเป็นน้ำที่ผ่านปอดเข้าไป
 
ในขณะที่เขากำลังยืนหายใจสูดอากาศ คนในน้ำกำลังหายใจเพื่อเอาน้ำเข้าไปในปอด ในกระเพาะ ทั้งสำลักน้ำ สำลักอาหารที่เคยกิน ไปอีกนานหลายนาที กว่าสมองจะขาดอากาศจนตาย ร่างของเขาก็ดิ้นจนหลุด และพุ่งออกไป
 
 
 
 
กูลสายอูคาคุ ยังไม่ทันกระพริบตาร่างก็พุ่งจากปลายสะพานไปถึงกลางสะพาน สปริงตัวกระโดดข้ามราวกั้นด้วยมือเพียงข้างเดียวท้าวไว้ และทิ้งตัวผ่านอากาศลงไปหาผืนน้ำด้านล่างที่มีอาหารของเขากำลังสำลักน้ำใกล้ตายรออยู่
 
อากาศไหลผ่านข้างตัวในแนวดิ่งไปอย่างรวดเร็ว ขณะสูดหายใจเข้าเก็บไว้ในปอดได้ทันพอดีตอนแรงกระแทกของพื้นน้ำรับไว้ ก่อนจะดึงให้จมลงด้วยความเร็วที่ลดลงจากทีแรก นิชิโนะยะพยุงร่างกายไว้ใต้น้ำขณะลืมตามองหาร่างที่น่าจะกำลังทุรนทุรายในสภาพที่ต้องการออซิเจน สองแขนแหวกน้ำและเตะขาออกไป เคลื่อนที่ผ่านความหนืดของน้ำที่เป็นปัญหาสักหน่อยสำหรับกูลความเร็วสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ากูลสายอื่น
 
เพราะหายใจไม่ได้ ในน้ำจึงไม่ได้กลิ่น แต่ในน้ำก็ยังมองเห็นถ้าหากลืมตา ร่างที่ใกล้จะถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตกำลังตะเกียกตะกายอย่างทรมาน เมื่อร่างกายหายใจเองโดยอัตโนมัติเมื่อถึงขีดสุดตอนต้องการอากาศ แต่สิ่งที่ผ่านโพรงจมูกไหลเข้าไปยังปอดกลับเป็นของเหลวที่ล้อมรอบร่างกาย ไม่ใช่ออกซิเจนอย่างที่ต้องการ การสำลักอย่างทุรนทุรายดำเนินไปถึงจุดที่กำลังใกล้ตาย
 
 
ภาพนาทีแห่งการทรมานกำลังปรากฎต่อดวงตาทั้งสองข้างที่กลายเป็นสีดำและแดง กล้ามเนื้อรอบดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นร่างแหของเส้นเลือดเมื่อคากุเนะค่อยๆ แทงผ่านช่วงไหล่ออกมาในน้ำ แผ่ขยายกว้างขึ้นจนคล้ายปีก และกำลังบังคับให้แข็งตัว ก่อนจะตัดสินใจปล่อยออกไปหาร่างที่กำลังดิ้นในน้ำตรงหน้า
 
 
…รีบตายดีกว่านะ…
 
 
แม้แต่ใต้น้ำที่มีแรงต้านการเคลื่อนที่ให้คากุเนะต้องแหวกผ่านมากกว่าอากาศ หรือแม้แต่การพุ่งตัวเคลื่อนที่ยังต้องใช้ทั้งแขนและขามากกว่าเวลาปกติที่เท้าเหยียบพื้น ก่อนเกล็ดแข็งที่ลุกไหม้คล้ายเปลวเพลิงในน้ำจะพุ่งปักร่างที่เข้าใกล้ขีดสุดท้ายของความทรมาน คากุเนะที่เป็นสายยาวของกูลสายรินคาคุ ก็พุ่งตัดผ่านน้ำขวางร่างใกล้ตาย ในตำแหน่งที่คากุเนะของเขาพุ่งไปปักเข้าพอดี ในระยะที่ห่างออกไป อาซาฮิซังลอยตัวอยู่ในน้ำขณะที่คากุเนะกำลังค่อยๆ หดกลับเข้าไปในกลางหลัง หลังจากปกป้องร่างที่นิ่งสนิทไปแล้วจากการโจมตีด้วยคากุเนะของเขา
 
 
 
 
 
 
สองมือแหวกผ่านน้ำเคลื่อนตัวเข้าไปหานิชิโนะยะที่ยังไม่เก็บคากุเนะกลับเข้าในผิวหนัง หยุดลอยตัวตรงหน้าจ้องมองดวงตาสีแดงจนกระทั่งร่างแหของเส้นเลือดรอบดวงตาเริ่มจางลง จนในที่สุดดวงตาสีขาวและน้ำตาลทองก็กลับมา พร้อมกับที่คากุเนะด้านหลังของกูลตัวเล็กหดกลับเข้าไป ตอนที่ก้มหน้าลงอย่างรู้ว่าตัวเองผิด
 
อาซาฮิเตะเท้าผ่านน้ำ เคลื่อนตัวไปหาร่างที่ก่อนหน้านี้ยังมีชีวิต เอื้อมมือออกคว้าช่วงกลางลำตัวเอาไว้แล้วดึงร่างหนักๆ ลากขึ้นสู่ผิวน้ำ พอสิ้นสุดความทุรนทุรายตอนสำลักน้ำในหลอดลมและปอด ก็เรียกได้ว่าศพ และพวกเขาก็เป็นกูลที่กินศพเป็นอาหารเพื่ออยู่รอด
 
 
 
ร่างไร้ชีวิตในชุดสูทเปียกน้ำถูกพาดพักไว้ที่ริมฝั่ง ในขณะที่ทั้งเขาและนิชิโนะยะก็เปียกไปด้วยน้ำตั้งแต่ผมไปจนถึงรองเท้า เสื้อผ้าหลายชิ้นหนักไปด้วยน้ำที่ซึมอยู่ตามเนื้อผ้า จนเขาต้องตัดสินใจถอดโค้ทตัวยาวและผ้าพันคอออก การมากินศพของคนฆ่าตัวตายในน้ำอาจดีที่ได้ดำลงไปเห็นนาทีแห่งการไปเยือนความตายขณะทุรนทุรายหลายนาที ต่างจากการตกจากตึกหรือหน้าผาสูงที่เป็นจังหวะเดียวเพียงแค่ร่างกระแทกพื้นแล้วเลือดไหลออกมาตอนที่ทั้งศีรษะ และเครื่องในแตกออก
 
ยกมือขึ้นสางผมเปียกขณะที่กูลตัวเล็กกำลังหิวโหยพุ่งเข้าหาร่างไร้ชีวิตตรงหน้าโดยไม่สนใจเสื้อตัวนอกที่เปียกไปด้วยน้ำ หรือแม้แต่แต่ผมสีทองด้านหน้าชุ่มน้ำจนแนบไปกับหน้าผาก และหยดน้ำก็กำลังไหลจากผมผ่านลงมาตามใบหน้า
 
นิชิโนะยะพยายามคุมสติของตัวเองที่ดูรีบร้อนขณะดวงตากลับเป็นสีแดงอีก มือเล็กก็จัดแจงถอดสิ่งปิดบังร่างกายและเนื้อหนังของคนตายออกเพียงแค่ส่วนสำคัญที่อยากจะกิน ศีรษะเจ้าของผมเปียกน้ำก้มลงไปจนชิดกับร่างที่ไม่หายใจ แล้วเสียงกัดที่กดฟันลึกผ่านเนื้อลงไปเต็มคำก็ดังให้ได้ยินเรื่อยๆ สลับกับเสียงเคี้ยวหรือกลืน รวมถึงเสียงแฉะเปียกที่ไม่ได้มาจากผ้าเปียกน้ำ แต่เป็นเลือดที่ไหลออกมาจนชุ่มเนื้อ
 
 
“ปอดมีแต่น้ำ จนเบียดกับซี่โครงเลย อาซาฮิซัง”
 
เมื่อเนื้อตรงอกถูกกินจนหมด และห็นอวัยวะภายในที่ผิดปกติจากการสำลักน้ำ ใบหน้าที่เปื้อนเลือดไปครึ่งหนึ่งของนิชิโนะยะที่กำลังเติมเต็มความหิวโหยให้ตัวเองก็เงยขึ้นมา
 
 
ตัดสินใจเดินเข้าไปและนั่งยองลงใกล้คนที่แทบจะนั่งทับศพบนพื้นไปทั้งตัว เอื้อมมือไปเช็ดริมฝีปากเปื้อนเลือดไปจนถึงคางให้ แม้จะรู้ดีว่าเจ้าตัวยังกินไม่อิ่ม แต่ก็ยังดีกว่าให้เลือดเปื้อนไหลรวมกับน้ำชื้นบนใบหน้าจนไหลลงไปตามคอ
 
 
“ตอนอยู่ในน้ำ ทำไมอาซาฮิซังถึงเข้ามาห้ามหละ”
 
 
“ถ้าไม่ห้าม นิชิโนะยะจะฆ่าเขา”
 
 
“ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีนี่..”
 
นิชิโนะยะยอมอยู่นิ่งเพียงครู่เดียวก็จับมือเขาเอาไว้ แล้วดึงให้เอื้อมลงไปสัมผัสบนเนื้อชุ่มเลือดด้านล่าง
 
 
“ให้เขาตายด้วยตัวเองจะดีกว่านะ”
 
สัมผัสแฉะข้นของเลือด กับกลิ่นหอมของเนื้อคนที่ถูกแหวะออก เริ่มทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายที่พากันไหลออกมายามเมื่อต้องการอาหารกลับลงคอไปไม่หมด ยอมเปลี่ยนดวงตาแสดงสัญลักษณ์ของการเป็นกูลเพื่อให้เกียรติมื้ออาหารซึ่งคือชีวิตของคนๆ หนึ่ง แล้วเนื้อที่ถูกแหวกอยู่ก่อนแล้ว ก็ถูกฉีกออกเพื่อกิน
 
 
 
ไม่ใช่เสียงของฝนที่ตกลงมา และก็ไม่ใช่เสียงของสัตว์เล็กที่อยู่ใกล้ๆ แต่เป็นฝีเท้าก้าวเหยียบพงหญ้ามาอย่างตั้งใจให้เกิดเสียง หรือก็คือให้เขารู้ตัว ปลายคางละจากลิ่มเลือดเงยหน้าขึ้นเพ่งมองในเงามืด ตามทิศทางที่จงใจส่งเสียงบอกเป็นการทักทาย ความมืดเริ่มจางลงกลายเป็นร่างของชายในชุดสีดำ และกระเป๋าใบใหญ่ในมือ
 
 
“แล้วก็มาเจอพวกที่กินเรี่ยราดจนได้สินะ”
 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
อ๋ายยยย //// v \\\\) อาซาฮิซังกูล กับโนะยะซังกูล
เขียนส่ง HQWeekly หัวข้อ Tokyo Ghoul ค่ะ
 
ไม่ค่อยเหมือนอาซาฮิซังกับโนะยะซังปกติเท่าไหร่เลย
(แอบเปลี่ยนทรงผม แล้วก็ใส่สายคากุเนะให้กับสองคนนี้เฉยเลยด้วย XD)
 
อาซาฮิซังกูลดูจะเป็นกูลขรึมๆ ที่คอยดูแลกูลตัวเล็กให้เป็นกูลที่ดีเลยค่ะ /////
 
พอเขียนโนะยะซังคนที่ทั้งเท่ทั้งน่ารักให้มากินเนื้อเปื้อนเลือดอย่างนี้แล้วรู้สึกว่า
เอ.. นี่จะใช่โนะยะซังหรือเปล่านะ ;; v ;;) แต่กลายเป็นสนุกมากเลยค่ะตอนที่เขียน
แล้วก็กลายเป็นทั้งเรื่องมีแต่เนื้อกับเลือดไปแล้ว
 
ทิ้งเอาไว้ก่อนจบ โดนโดฟมาเจอซะแล้วหละค่ะ

ที่คิดเอาไว้ โดฟคือไดจิซังของน้อง @Little_Him ที่วาดส่งวีคลี่เหมือนกันค่ะ

4 comments

  1. โดนโดฟมาเจอแบบนี้แสดงว่าจะมีภาคต่อใช่ไหมคะพี่มิ้นท์ >___< 5555555555
    ชอบบบบบค่ะ ชอบพี่มิ้นท์แต่งเซ็กซี่อ่ะ ฮือ ยกนิ้วให้เลยที่หนึ่งจริงๆค่ะ T T
    คือทั้งๆที่การกระทำก็ไม่ได้เยอะอะไรแต่ออกมารู้สึกเอโร่ยมากกกกกกกกกกก = ., = //////
    ชอบมากๆทุกเรื่องเลยค่ะ ตอนที่โนยะซังหิวแล้วแทะอาซาฮิซังนี่แบบ กรี๊ดดดด
    หน้าระเบิด ; /////////// ; .. จะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ <3

    Like

    1. ขอบคุณค่าาาาาาา
      จบได้เหมือนจะมีภาคต่อมากเลยเนอะ แต่ไม่รู้จะได้มีโอกาสเขียนมั้ยค่ะ ;; v ;;) แต่ว่าอยากเขียนมากเลยยย พล็อตหลั่งไหลแล้วด้วย (ฮาาา)

      โนะยะซังแทะอาซาฮิซัง เดี๋ยวพี่แทะโนะยะซังต่อเลยละกัน = q =,,) ฮ่อววววว

      ดีใจที่บอกว่าเซ็กซี่และเอโร่ยค่ะ คืออยากให้โนะยะซังดูแบบเซ็กซี่เย้ายวนตอนกอดก่ายอยู่กับหลังอาซาฮิซังน่ะ .///////.)

      Like

  2. กรี้ดดดดดดดเ ฟหกด่าสววสเกกหหเ้่าสสววดกกห้ราือกหปด โฮ เป็นมื้ออาหารที่สุดๆไปเลยค่ะพี่มิ้น ฮวากกกกกก ไม่รู้จะบรรยายยังไง รู้สึกน่ารักและกลัวไปพร้อมๆกันเลยล่ะคะ

    Like

    1. ขอบคุณค่าน้องอี้ XD เป็นมื้ออาหารที่พี่อยากกินโนะยะซังเหลือเกิน 555555 แต่อาซาฮิซังเท่ขาดใจปกป้องกูลในความดูแล(?)ขนาดนั้น คงกินโนะยะซังไม่ได้แน่ๆ ;____;)

      Like

Thank you for your comment ♥