[Fic Haikyuu] 雨が降っている (Tsukishima x Nishinoya)


Title: 雨が降っている
Author: Yaoyuay
Fandom: Haikyuu
Pairing: Tsukishima x Nishinoya
Rating: PG
Warning: Yaoi
 
 
 
 
ฝนลงเม็ดเปาะแปะตอนที่เดินออกมาจากห้องชมรมทั้งที่ฟ้ายังไม่มืด แต่เหมือนว่าลมจะยิ่งพัดแรงพาเอาก้อนเมฆสีดำลอยมาอยู่ตรงกับที่ยืนอยู่มากขึ้นแล้วทั้งใบไม้สีเขียวและสีน้ำตาลก็ปลิวหลุดออกมาจากต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ เฉียดผ่านตัวไปหรือบางทีก็ชนเข้ากับแขนให้ต้องหยิบออก
 
คงจะไม่ได้เดินฟังเพลงตอนที่ยามากุจิไม่อยู่ ฝนที่โชยมาให้ได้กลิ่นตั้งแต่ทีแรกทำให้เก็บเฮดโฟนใส่กระเป๋าแล้ว แต่ถ้ายังไม่รีบเร่งเดินกลับบ้าน กระเป๋านักเรียนก็อาจจะไม่ป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากน้ำ
 
 
ฝนเริ่มลงเม็ดใหญ่และถี่ขึ้นเมื่อลมหยุดพัด เงยหน้าขึ้นมองเห็นเมฆสีดำลอยอยู่เต็มท้องฟ้า แล้วเม็ดฝนก็ตกลงมาใส่แว่นให้ต้องถอดออกมาเช็ดกับชายเสื้ออย่างหงุดหงิด ไม่ชอบตอนฝนตกเพราะเปียกแว่นเนี่ยแหละ แล้วยังพื้นแฉะน้ำที่ต้องย่ำลงไปอีก เสื้อผ้าเปียกน้ำก็เป็นปัญหาพออยู่แล้วสำหรับคนไม่ชอบพกร่มอย่างเขา
 
 
สึกิชิมะถอนหายใจแล้วรีบก้าวยาวๆ ผ่านใต้ต้นไม้ที่ปลูกเรียงติดกันอยู่ในบริเวณโรงเรียน อย่างน้อยใบไม้ที่ติดอยู่กับกิ่งไม้หนาๆ ที่เหมือนจะสานต่อกันนี้ก็ช่วยกันฝนไม่ให้ตกลงมาเปียกเสื้อได้บ้าง ถ้าฟังพยากรณ์อากาศแล้วจะยอมหยิบร่มมาจากบ้านด้วยก็คงไม่เป็นปัญหาให้ต้องวิ่งเลาะไปตามต้นไม้ทีละต้นแบบนี้
 
 
“เฮ้~~เจ้าปีหนึ่งตัวสูงๆ ตรงนั้นน่ะ”
 
 
เหมือนจะได้ยินเสียงห้าวๆ แว่วมาพร้อมกับลมที่พัด หันมองอยู่นานกว่าจะเห็นคนตัวเล็กๆ ยืนอยู่ใต้ร่มใสตรงหน้าโรงยิม ลิเบอโรที่เป็นรุ่นพี่
 
หันไปเห็นแล้วก็ยากจะหันกลับโดยไม่หยุดยืนรอคนที่ดูท่าว่าเหมือนจะวิ่งมาก็จะดูเป็นการเสียมารยาท ทำหน้าเซ็งอยู่ไกลๆ แบบนี้คงจะมองไม่เห็นใช่มั้ย
 
วิ่งมาอย่างเร็วแลย เห็นน้ำที่เริ่มขังอยู่บนพื้นถนนกระเด็นขึ้นมาเปียกขากางเกงตอนที่ขาสั้นๆ นั้นย่ำลงเมื่อทิ้งน้ำหนักลงไป แล้วยังจะหัวเราะแล้วยิ้มอีก เปียกฝนนี่มันน่าสนุกตรงไหน
 
 
“ไม่มีร่มหรือไงกันฮึ”
 
ถามแปลกมาก ถ้ามีร่มก็คงจะหยิบออกมากางแล้ว
 
“ทำไมไม่พกหล่ะ ไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศเมื่อวานเรอะ”
 
 
เป็นเม็ดฝนตกผ่านใบไม้ลงมาโดนเลนส์แว่น เขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามได้มั้ยเนี่ย
 
“ลืม.. ครับ”
 
 
“โฮ่!! อะไรกัน นี่นายเด็กกว่าชั้นอีกนะ แค่นี้ก็ลืมแล้วเหรอ ความจำไม่ดีเลยนะ!!”
 
เป็นมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือร่มอยู่ฟาดมาที่ต้นแขนให้อยากจะยกมือขึ้นลูบแขนถ้าฟาดเสร็จ จะบอกว่าไม่เจ็บก็ไม่ได้เพราะรุ่นพี่คนนี้แรงเยอะกว่าตัวเหลือเกิน แล้วที่บอกว่าลืม ก็ไม่ได้หมายถึงลืมแบบที่เข้าใจเสียหน่อย
 
 
“ให้ยืมร่มเดินไปด้วยกันเอามั้ยหล่ะ!”
 
เหมือนจะเท่ที่ยกมือขึ้นมากำแล้วชี้นิ้วโป้งหาตัวเอง แต่ประโยคนี้หมายความว่ายังไง คือจะกางร่มเดินไปด้วยกันน่ะเหรอ
 
 
อึกอักเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี จะปฏิเสธน่ะปฏิเสธแน่อยู่แล้ว ยังไงเดินคนเดียวก็สบายใจกว่าเป็นไหนๆ แต่จะใช้คำพูดว่าอะไรถึงจะดูไม่เสียมารยาทนอกจาคำว่า ไม่ครับ
 
 
“อ้ะ! รีบไปเถอะ เดี๋ยวฝนยิ่งตกหนักกว่านี้นะ”
 
โดนจูงแขนแล้ว ยังไม่ทันจะได้บอกปฏิเสธเลย เหมือนเป็นอัตโนมัติที่พยายามขืนตัวไม่เดินตาม แต่พอโดนดึงออกมานอกร่มไม้แล้ว ร่มใสในมือของรุ่นพี่ตัวเล็กก็รีบยกขึ้นสูงจนพออยู่เหนือหัวเขาเมื่อช่วยด้วยการก้มตัวลง
 
 
แล้วฝนก็ตกหนักซู่ลงมาเหมือนจะแกล้งจนร่มคันเล็กแทบจะกันไม่อยู่ ลมพัดมาให้ใบไม้หลุดปลิวลอยผ่านหน้า แล้วยังเป็นเม็ดฝนที่สาดเฉียงเข้าหาตัวตามทิศของลม ร่มก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว
 
ก้มลงมองเห็นรุ่นพี่ตัวเล็กชูแขนขึ้นจนสุดเพื่อให้ร่มพอจะสูงกว่าหัวของเขา แต่เพราะทั้งลมที่พัดมา หรือว่าเมื่อยแขนหรือยังไงก็ไม่รู้ ขอบร่มตรงที่เป็นโครงเหล็กแม้จะหุ้มด้วยพาสติกแล้วแต่ก็ยังกระแทกโดนด้านข้างของหัวเขาเรื่อยๆ จนรู้สึกใกล้เคียงจะรำคาญ ตั้งใจจะแกล้งเอาร่มเจาะหัวเขาหรือเปล่า
 
 
ถอนหายใจแต่ก็โดนเสียงฝนที่ตกหนาเม็ดกลบ ยกมือขึ้นจับด้ามร่มตรงที่มือเล็กๆ นั้นเกร็งแขนถืออยู่ ไม่ได้ตั้งใจแต่เหมือนจะเฉียดโดนมือเย็นๆ ที่ชื้นฝนนั้นหน่อยให้นิ้วมือได้แตะโดนกันอย่างบังเอิญ แล้วร่มคันเล็กก็โดนเขาแย่งมาถือไว้เอง
 
 
“อ้ะ!! อะไรน่ะ”
 
โดนแย่งร่มจากมือก็เลยเงยหน้าขึ้นมาแบบงงๆ แล้วขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ผมที่เซ็ตตั้งเป็นทรงนั้นเหมือนจะลู่ลงมาหน่อยเพราะลมพัด ผมข้างหน้าที่ปกติจะมีแต่ผมสีเหลืองก็เริ่มเห็นเป็นไรผมสีดำปรกลงมา
 
 
“ผมถือเองดีกว่าครับ”
 
พอได้ถือเองก็หมดปัญหาเรื่องร่มกระแทกหัว แต่ดูเหมือนว่าส่วนสูงที่ต่างกันมากจะทำให้ร่มที่อยู่สูงเลยหัวเขาขึ้นไปอีกนี้จะไม่กันฝนให้คนตัวเตี้ยสักเท่าไหร่ ไม่ได้ยืนห่างกันมากแต่เหมือนว่าแขนอีกข้างที่ไม่ได้เกือบชิดกับแขนเขาจะเปียกฝนไปทั้งแขน แม้กระทั่งตรงแขนเสื้อยืด
 
 
เห็นใจดีให้กางร่มไปด้วยกันแล้ว เขาก็คงเหมือนเป็นคนใจร้ายถ้าจะปล่อยให้รุ่นพี่เปียกฝน แขนอีกข้างที่ไม่ได้ถือร่มอยู่เลยเอื้อมออกไปคว้าแขนผอมๆ ที่อยู่ใกล้ตัวดึงให้ขยับเข้ามาใกล้
 
เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสตรงต้นแขน ถึงได้รู้ว่าแขนที่คอยหนุนบอลขึ้นมาก่อนจะตกพื้นนั้นผอมมาก ผอมจนถ้าแค่มองคงคิดว่าไม่มีแรง แต่เพราะได้สัมผัสถึงได้รู้ว่ากล้ามเนื้อตรงต้นแขนก็สมกับเป็นนักกีฬา
 
เผลอก้มมองมือตัวเองที่กำรอบต้นแขนผอมๆ ใกล้กับปลายแขนเสื้อ ก็สะดุ้งเมื่อเห็นว่าผิวเนื้อตรงใกล้กับนิ้วมือเขาเขียวจ้ำเป็นรอยช้ำ เผลอออกแรงแบบที่ไม่รู้ว่าที่บีบลงไปนี้รุ่นพี่จะเจ็บหรือเปล่า แต่ก็ยังดึงให้ร่างเล็กๆ นั้นเบียดเข้ามาชิดกว่าเดิม
 
 
ไม่มีเสียงร้องโวยวายให้หนวกหูหรือขัดขืน รุ่นพี่ที่ชื่อนิชิโนะยะเซนิดๆ แล้วก็ยอมเขยิบเข้ามาเดินใกล้ๆ แขนข้างที่เมื่อกี้เกือบชิดกันกลายเป็นซ้อนทับกันแบบที่แขนของเขาเหมือนจะซ้อนไปใกล้กับด้านข้างของลำตัว หรือเกือบจะถูกก็คือเดินเบียดชิดอยู่ข้างหลัง
 
ที่ดีก็คือไม่ต้องโดนหันมาเงยมองหน้า แล้วที่ดีกว่าก็คือเขาไม่ต้องมองเห็นหน้าของคนที่เดินอยู่ชิดกันนี้เหมือนกัน เหมือนเป็นความรู้สึกบางอย่างที่แปลกๆ คงเป็นเพราะเขาไม่เคยต้องอยู่ใต้ร่มคันเดียวกับใคร หรือเป็นเพราะไม่เคยอยู่ใกล้กับใครมากขนาดนี้
 
 
 
 
 
ฝนเริ่มซาเม็ดลงแล้ว จนเหลือเพียงเสียงเปาะแปะของเม็ดฝนที่กระทบกับร่ม นอกจากบนพื้นถนนแฉะที่มีใบไม้เปียกน้ำร่วงอยู่ หรือในบางก้าวที่เกือบจะเดินไปพร้อมกันเหยียบลงบนแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนน ลมที่พัดมาเบาๆ ให้ได้กลิ่นชื้นของดินรวมกับกลิ่นฝน ทั้งที่น่าจะขยับออกไปห่างเท่าเดิมแล้ว แต่ก็ยังอยากจะก้าวสั้นๆ เดินชิดอยู่พร้อมกัน เหมือนอย่างตอนนี้
 
 
บางที ช่วงเวลาตอนฝนตก ก็ไม่ได้เลวร้าย
 
 
 

– E N D –

 
 
 

x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x

 
IN OUT มาอีกแล้วค่ะ >/////< ติดใจจนขอเขียนอีกสักที
เป็นคู่ที่เขียนแล้วชอบมากจนเหมือนว่านอกใจอาซาฮิซังยังไงก็ไม่รู้ค่ะ ;; v ;;
 
เย็นนี้ฝนตกเลยอยากให้สองคนนี้ได้อยู่ใต้ร่มคันเดียวกัน
แต่พอลองนึกถึงส่วนสูงที่ห่างกันมากแล้วถ้าโนะยะซังถือร่มต้องเคาะหัวสึกกี้แน่เลยค่ะ (ฮาาาา)
เดินเบียดๆ กันหน่อยก็ไม่เป็นไรเนอะ ^////^
 
อยากเขียนคู่นี้อีกจังเลยค่ะ อยากเขียนอีกจัง

8 comments

  1. IN-OUT ของเราๆ นั้นช่างฟินไม่หยอกกกก ///// v ///// สึกกี้นี่อะไร แกล้งหยิ่งไปงั้นใช่มั้ย ดูๆก็โอนอ่อนตามนะ ที่บอกอยากจะปฏิเสธนี่อ้างใช่มั้ย ทำตัวไม่ถูกใช่มั้ย โนยะซังก็ยังซื่อตรงและน่ารักเหมือนเดิมเลย ฮรือออออออ โดนยิงเรือ

    ฝนตกนี่ไม่เลวร้ายเลย มีแต่เรื่องดีงามค่ะดีงาม U v U

    Like

    1. จซโดนยิงเรือ แต่จชพยิงเรือตัวเอง 5555555 โอ้ยชอบ ยังติดฟิคเวียน IN OUT กับเซซังอยู่เลย T___T พักนี้ผลิตอะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะ

      Like

      1. เอาลงไหก่อนก็ได้ค่ะ ยังมีของที่ต้องออกงาน CA ค้ำคอพวกเราอยู่ ขยับไปไหนแทบไม่ได้เลย U v U

        Like

  2. อ่านฟิคแล้วเข้ากับบรรยากาศฝนตกมาสองวันมากๆเลยคะ
    ฝนตกพร่ำๆเดินเคียงคู่กันใต้ร่มคันเดียว อื้อหื้อ -/////////-
    แม้ความสูงของพี่สึกี้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ความสูงไม่มีผลต่อความรักคะ <3

    แต่โนยะซังแอบนอกใจอาซาฮิซังนะคะ 55

    Like

    1. ขอบคุณค่ะ >/////<) นั่งเขียนตอนฝนตกบรรยากาศก็เป็นใจมากเลยค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าโนะยะซังที่นอกใจ หรือเรานอกใจอาซาฮิซังกันแน่ เขียนอาซาโนะยะ กับ สึกกี้โนะยะติดกันแล้วรู้สึกเลือกไม่ถูกแล้วค่ะ U/////U

      Liked by 1 person

  3. หวาๆ สึกกี้ก็แอบน่ารักเหมือนกันแฮะ ถึงแม้ปกติจะรู้สึกหมั่นไส้ที่สุด
    กรี้ดโนะยะซังมากๆเลยค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่ดีมากๆ โอ้ย แอบนอกใจอาซาฮีซัง แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ โอ้ย เลือกไม่ถูกเลยค่ะพี่มิ้นต์ ฮา

    Like

    1. พี่ก็เลือกไม่ถูกค่ะน้องอี้ T///v///T
      ไม่รู้ทำไมชอบคู่นี้มากกกกมากกกกก จนจะนอกใจอาซาฮิซังจริงๆ แล้ว

      สูงสุดกับเตี้ยสุดนี่น่ามันเขี้ยวมากๆ เลย
      อยากให้สองคนนี้มาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ จังเลยค่ะ

      Like

Thank you for your comment ♥